วันจันทร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2554

ประวัติธรรมชาติ




ประวัติความเป็นมาศูนย์ภูมิรักษ์ธรรมชาติ

มูลนิธิชัยพัฒนาได้จัดซื้อที่ดินผืนนี้ จำนวน 14 ไร่ 2 งาน 18 ตร.วา เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2532 สมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัยในพระบรมราชูปถัมภ์ เห็นสมควรที่จะได้รับใช้เบื้องยุคลบาท เผยแพร่แนวพระราชดำริให้กว้างขวางและลึกซึ้งออกไป ในกิจกรรมที่จะเข้าถึงสาธารณะชนจำนวนมากได้ จึงขออนุญาตจากมูลนิธิชัยพัฒนา ใช้ที่ดินเป็นที่รวบรวมข้อมูลและมีกิจกรรมที่แสดงให้เห็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่เป็นรูปธรรมชัดเจน เกิดเป็น "โครงการศูนย์นันทนาการบริหารทรัพยากรธรรมชาติ" เพื่อเสนอแนวคิด และทฤษฎีการพัฒนาในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้านการเกษตร ปศุสัตว์ สิ่งแวดล้อม และพลังงาน ตลอดจนการสาธิตความเป็นอยู่วิถีไทยด้วยเทคโนโลยีที่เหมาะสม อีกทั้งยังจัดกิจกรรมต่าง ๆ ให้ประชาชน นักเรียน นักศึกษา ที่คาดว่าจะมาท่องเที่ยวโครงการเขื่อนคลองท่าด่าน ที่จะแล้วเสร็จในปี 2547 ได้เข้าร่วมปฏิบัติด้วย สมาคมฯ ได้รับพระราชทานพระราชานุญาตจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี องค์ประธานมูลนิธิชัยพัฒนา เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2545 ให้ดำเนินการตามที่เสนอ โดยการก่อสร้างอาคารต่าง ๆ ประกอบด้วยอาคารนิทรรศการ ต้อนรับนักท่องเที่ยว อาคารห้องประชุม ร้านค้า และลานนิทรรศการ เป็นต้น

โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีได้พระราชทานชื่อโครงการว่า "ศูนย์ภูมิรักษ์ธรรมชาติ" เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2545 และเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน พ.ศ.2551 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ได้เสด็จรับมอบศูนย์ภูมิรักษ์ธรรมชาติจากสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัยพร้อมเปิดศูนย์ภูมิรักษ์ธรรมชาติอย่างเป็นทางการ




มูลนิธิชัยพัฒนา จดทะเบียนเมื่อ พ.ศ. 2531 เพื่อเป็นการลดขั้นตอนการช่วยเหลือความทุกข์ร้อนของราษฎร

สัญญลักษณ์ของมูลนิธิชัยพัฒนา แบ่งออกเป็น 4 ส่วน ดังนี้พระแสงขรรค์ชัยศรี หมายถึง กระบี่ เรียกว่า พระขรรค์ประจำพระองค์ คล้ายเป็นจอมทัพ นำไปจะทรงออกรบคนเดียวไม่ได้ จะต้องมีข้าราชการ พลเรือน ตำรวจ ทหาร พสกนิกรทั่วไปตามพระองค์ไปด้วย เพื่อนำประเทศไทยไปสู่ความมั่นคงธงกระบี่ธุช หมายถึง ชัยชนะที่พระองค์จะนำทัพไปข้างหน้าดอกบัว หมายถึง ความสงบ ร่มเย็นสังข์หลั่งน้ำ หมายถึง ความเจริญงอกงาม และความบริบูรณ์แห่งพืชพันธุ์ธัญญาหาร อันจะนำไปสู่ความอยู่ดี กินดี น้ำที่จะสร้างความชุ่มชื้นแก่แผ่นดิน ให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ และความร่มเย็นเป็นสุข

วันครู


16 มกราคม วันครู

ปาเจราจริยา โหนฺติ คุณุตฺตรานุสาสกา
ปัญฺญาวุฒิกเร เต เต ทินฺโนวาเท นมามิหํ

ครู หมายถึง ผู้อบรมสั่งสอน ผู้ถ่ายทอดความรู้ ผู้สร้างสรรค์ ภูมิปัญญา และพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่อนำไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง ของสังคมและประเทศชาติ
ครูนับเป็นปูชนียบุคคลที่มีความสำคัญอย่างมาก ในการให้การศึกษาเรียนรู้ ทั้งในด้านวิชาการ และประสบการณ์ ตลอดจนเป็นผู้มีความเสียสละ ดูแลเอาใจใส่สั่งสอนอบรมให้เด็กได้พบกับแสงสว่างแห่งปัญญา อันจะเป็นหนทางในการประกอบอาชีพเลี้ยงดูตนเอง รวมทั้งการนำพาสังคมประเทศชาติก้าวไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง
ด้วยเห็นความสำคัญของครูดังกล่าวมาแล้วนั้น จึงได้กำหนดให้มีวันครูขึ้น ในวันที่ 16 มกราคม ของทุกปี เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวที และให้ครูเป็นผู้ได้รับการยกย่องเชิดชูในสังคม



ประวัติความเป็นมาของการจัดงานวันครู
ในปี พ.ศ. 2499 จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีสมัยนั้น ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานกรรมการอำนวยการคุรุสภากิตติมศักดิ์ ได้กล่าวปราศัยต่อที่ประชุมครูทั่วประเทศ ถึงความคิดที่จะกำหนดให้มีวันครู และเป็นการสอดคล้องกับความคิดเห็นของครูทั่วไป
ดังนั้น ในวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2499 คณะรัฐมนตรีได้มีมติกำหนดให้ วันที่ 16 มกราคมของทุกปีเป็น "วันครู" โดยถือเอาวันที่ประกาศพระราชบัญญัติครูในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2488 เป็นวันครู
วันครูได้จัดให้มีในครั้งแรก เมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2500 สืบเนื่องมาจากการประกาศพระราชบัญญัติครูในราชกิจจานุเบกษาในปี พ.ศ. 2488 ซึ่งระบุให้มีสภาในกระทรวงศึกษาธิการ เรียกว่า "คุรุสภา" เป็นนิติบุคคล ให้ครูทุกคนเป็นสมาชิกคุรุสภา โดยมีหน้าที่ในเรื่องของสถาบันวิชาชีพครู ในขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่ให้ความเห็นเรื่องนโยบายการศึกษาและวิชาการศึกษาทั่วไปแก่กระทรวงศึกษาธิการ ควบคุมจรรยาและวินัยของครู รักษาผลประโยชน์ส่งเสริมฐานะของครู จัดสวัสดิการให้ครูและครอบครัวได้รับความช่วยเหลือตามสมควร ส่งเสริมความรู้และความสามัคคีของครู
ในทุก ๆ ปี คุรุสภาได้ให้มีการประชุมสามัญคุรุสภาประจำปี เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้แทนครูจากทั่วประเทศแถลงผลงานในรอบปีที่ผ่านมา และซักถามข้อข้องใจต่าง ๆ เกี่ยวกับการดำเนินงานของคุรุสภา โดยมีคณะกรรมการอำนวยการคุรุสภาเป็นผู้ตอบข้อสงสัย

การจัดงานวันครูในส่วนกลาง
มีการจัดงานวันครูครั้งแรกขึ้น ในวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2500 ในส่วนกลางใช้สถานที่ของกรีฑาสถานแห่งชาติเป็นที่จัดงาน ปัจจุบันในส่วนกลางจัดที่หอประชุมคุรุสภา โดยคณะกรรมการจัดงานวันครู ซึ่งมีปลัดกระทรวงศึกษาธิการเป็นประธาน
พิธีจะเริ่มขึ้นในตอนเช้า โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ประธานกรรมการอำนวยการคุรุสภา คณะกรรมการอำนวยการคุรุสภา คณะกรรมการจัดงานวันครู พร้อมด้วยครูอาจารย์ และประชาชนทั่วไปร่วมกันใส่บาตรพระสงฆ์ หลังจากนั้นจึงเข้าร่วมพิธีในหอประชุมคุรุสภา นายกรัฐมนตรีเดินทางมาเป็นประธานในงาน ดนตรีบรรเลงเพลงมหาฤกษ์ นายกรัฐมนตรีบูชาพระรัตนตรัย ประธานสงฆ์ให้ศีล รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการกล่าวรายงานต่อนายกรัฐมนตรี เสร็จแล้วมีพิธีบูชาบูรพาจารย์ โดยครูอาวุโสนอกประจำการจะเป็นผู้กล่าวนำพิธีสวดคำฉันท์รำลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์
จากนั้นประธานจัดงานวันครูจะเชิญผู้ร่วมประชุมยืนสงบ 1 นาที เพื่อระลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์ที่ล่วงลับไปแล้ว ต่อด้วยครูอาวุโสในประจำการนำผู้ร่วมประชุมกล่าวปฏิญาณ

การจัดงานในส่วนภูมิภาค
ในการจัดงานวันครูในส่วนภูมิภาค มอบให้จังหวัดเป็นผู้ดำเนินการ โดยตั้งคณะกรรมการจัดงานวันครูขึ้นเช่นเดียวกับส่วนกลาง จะจัดรวมกันที่จังหวัดหรือจัดแต่ละอำเภอก็ได้
งานวันครูได้กำหนดเป็นหลักการ ให้มีอนุสรณ์สำคัญ คือ หนังสือประวัติครู หนังสือที่ระลึกวันครู และสิ่งก่อสร้างที่เป็นถาวรวัตถุ เพื่อเป็นอนุสรณ์สำคัญแก่อนุชนรุ่นหลัง
การจัดงานวันครูได้ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงกิจกรรมให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมตลอดเวลา ในปัจจุบันได้จัดรูปแบบการจัดงานวันครูให้มีกิจกรรมเป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ ดังนี้
1. กิจกรรมทางศาสนา
2. พิธีรำลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์ การประกอบพิธีปฏิญาณตน การให้รางวัลเพื่อเป็นการยกย่องส่งเสริมครูอาจารย์ที่มีผลงานความสามารถจนเป็นที่ยกย่อง
3. จัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อความสามัคคีระหว่างผู้ประกอบอาชีพครู เช่น การแข่งขันกีฬา การจัดงานรื่นเริงสังสรรค์ ฯลฯ


คำปฏิญาณ

ข้อ 1 ข้าจะบำเพ็ญตนให้สมกับที่ได้ชื่อว่าเป็นครู
ข้อ 2 ข้าจะตั้งใจฝึกสอนศิษย์ให้เป็นพลเมืองดีของชาติ
ข้อ 3 ข้าจะรักษาชื่อเสียงของคณะครูและบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม
จากนั้นพระสงฆ์เจริญชัยมงคล แล้วต่อด้วยนายกรัฐมนตรีมอบรางวัลครูดีเด่นประจำปี มอบของที่ระลึกให้ครูอาวุโสนอกและในประจำการ สุดท้ายกล่าวปราศรัยกับคณะครูที่มาประชุม


กิจกรรมต่าง ๆ ที่ควรปฏิบัติในวันครู

1. ร่วมกิจกรรมทางศาสนา ทำบุญใส่บาตรพระสงฆ์ กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้แกบรรดาบูรพาจารย์ผู้ล่วงลับ
2. ส่งบัตรอวยพร หรือไปเยี่ยมเยือนครูอาจารย์ที่เคยให้ความรู้อบรมสั่งสอน เพื่อเป็นการรำลึกถึงคุณงามความดี และแสดงความกตัญญูกตเวที
3. ร่วมพิธีบูชาบูรพาจารย์
4. ร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดขึ้น เช่น นิทรรศการเกี่ยวกับครู การเรียนการสอน หรือกิจกรรมการกุศลที่หารายได้สมทบกองทุนช่วยเหลือครู เป็นต้น








บทสวดเคารพครูอาจารย์

(สวดนำ) ปาเจราจริยาโหนฺติ (รับพร้อมกัน) คุณุตฺตรานุสาสกา
ปญฺญาวุฑฺฒิกเร เต เต ทินฺโนวาเท นมามิหํ

(สวดทำนองสรภัญญะ)
(สวดนำ) อนึ่งข้าคำนับน้อม (รับพร้อมกัน) ต่อพระครูผู้การุณย์
โอบเอื้อและเจือจุน อนุศาสน์ทุกสิ่งสรรพ์
ยัง บ ทราบก็ได้ทราบ ทั้งบุญบาปทุกสิ่งอัน
ชี้แจงและแบ่งปัน ขยายอรรถให้ชัดเจน
จิตมากด้วยเมตตา และกรุณา บ เอียงเอน
เหมือนท่านมาแกล้งเกณฑ์ ให้ฉลาดและแหลมคม
ขจัดเขลาบรรเทาโม หะจิตมืดที่งุนงม
กังขา ณ อารมณ์ ก็สว่างกระจ่างใจ
คุณส่วนนี้ควรนับ ถือว่าเลิศ ณ แดนไตร
ควรนึกและตรึกใน จิตน้อมนิยมชม
(กราบ)


คุณสมบัติของครูอาจารย์ที่ดี

1. ประพฤติตัวให้เป็นที่รัก (ปิโย)
2. มีใจหนักแน่นทำตนให้น่ายำเกรง (ครุ)
3. อบรมตนเองสม่ำเสมอ (ภาวนีโย)
4. ฉลาดสอน ฉลาดพูด (วตฺตา)
5. อดทนต่อถ้อยคำล่วงเกิน (วจนกฺขโม)
6. พูดเรื่องลึกซึ้งให้เข้าใจลึกซึ้งได้ (คมฺภีรํ กถํ กตฺตา)
7. ไม่ชักนำศิษย์ไปในทางเสียหาย (โน จฎฺฐาเน นิโยชเย)

หน้าที่ของครูอาจารย์พึงมีต่อศิษย์

1. แนะนำดี
2. ให้เรียนดี
3. บอกศิลปให้สิ้นเชิง ไม่ปิดบังอำพราง
4. ยกย่องให้ปรากฎในเพื่อนฝูง
5. ทำความป้องกันในทิศทั้งหลาย

หน้าที่ของศิษย์พึงมีต่อครูอาจารย์

1. ให้การต้อนรับ
2. เสนอตัวรับใช้
3. เชื่อฟัง
4. คอยปรนนิบัติ
5. เรียนศิลปวิทยาโดยเคารพ


เพลงวันครู
เพลงพระคุณที่สาม
ครูบาอาจารย์ ที่ท่านประทาน ความรู้มาให้
อบรมจิตใจ ให้รู้ผิดชอบ ชั่วดี
ก่อนจะนอน สวดมนต์อ้อนวอนทุกที ขอกุศล
บุญบารมี ส่งเสริมครูนี้ให้ร่มเย็น
ครูมีบุญคุณ จะต้องเทิดทูน เอาไว้เหนือเกล้า
ท่านสั่งสอนเรา อบรมให้เรา ไม่เว้น
ท่านอุทิศ ไม่คิดถึงความยากเย็น สอนให้รู้ จัดเจน
เฝ้าแนะ เฝ้าเน้น มิได้อำพราง
* พระคุณที่สาม งดงามแจ่มใส แต่ว่าใครหนอใคร
เปรียบเปรย ครูไว้ ว่าเป็นเรือจ้าง
ถ้าหากจะคิด ยิ่งคิดยิ่งเห็น ว่าผิดทาง
มีใครไหนบ้าง แนะนำแนวทาง อย่างครู
บุญเคยทำมา ตั้งแต่ปางใด เรายกให้ท่าน
ตั้งใจกราบกราน เคารพคุณท่าน กตัญญู
โรคและภัย อย่ามาแผ่วพาน คุณครู ขอกุศลผลบุญค้ำชู
ให้ครูมีสุข ชั่วนิรันดร ให้ครูมีสุข ชั่วนิรันดร

ดอกไม้ประจำวันครู



ภาพในวันครู



พานที่จัดทำในวันครู

วันจันทร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2554

16 มกราคม วันครู



ปาเจราจริยา โหนฺติคุณุตฺตรานุสาสกา
ปัญฺญาวุฒิกเร เต เตทินฺโนวาเท นมามิหํ


       ครู หมายถึง ผู้อบรมสั่งสอน ผู้ถ่ายทอดความรู้ ผู้สร้างสรรค์ ภูมิปัญญา และพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่อนำไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง ของสังคมและประเทศชาติ
       ครูนับเป็นปูชนียบุคคลที่มีความสำคัญอย่างมาก ในการให้การศึกษาเรียนรู้ ทั้งในด้านวิชาการ และประสบการณ์ ตลอดจนเป็นผู้มีความเสียสละ ดูแลเอาใจใส่สั่งสอนอบรมให้เด็กได้พบกับแสงสว่างแห่งปัญญา อันจะเป็นหนทางในการประกอบอาชีพเลี้ยงดูตนเอง รวมทั้งการนำพาสังคมประเทศชาติก้าวไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง
     ด้วยเห็นความสำคัญของครูดังกล่าวมาแล้วนั้น จึงได้กำหนดให้มีวันครูขึ้น ในวันที่ 16 มกราคม ของทุกปี เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวที และให้ครูเป็นผู้ได้รับการยกย่องเชิดชูในสังคม
       
 
ประวัติความเป็นมาของการจัดงานวันครู

      ในปี พ.ศ. 2499 จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีสมัยนั้น ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานกรรมการอำนวยการคุรุสภากิตติมศักดิ์ ได้กล่าวปราศัยต่อที่ประชุมครูทั่วประเทศ ถึงความคิดที่จะกำหนดให้มีวันครู และเป็นการสอดคล้องกับความคิดเห็นของครูทั่วไป
     ดังนั้น ในวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2499 คณะรัฐมนตรีได้มีมติกำหนดให้ วันที่ 16 มกราคมของทุกปีเป็น "วันครู" โดยถือเอาวันที่ประกาศพระราชบัญญัติครูในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2488 เป็นวันครู
     วันครูได้จัดให้มีในครั้งแรก เมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2500 สืบเนื่องมาจากการประกาศพระราชบัญญัติครูในราชกิจจานุเบกษาในปี พ.ศ. 2488 ซึ่งระบุให้มีสภาในกระทรวงศึกษาธิการ เรียกว่า "คุรุสภา" เป็นนิติบุคคล ให้ครูทุกคนเป็นสมาชิกคุรุสภา โดยมีหน้าที่ในเรื่องของสถาบันวิชาชีพครู ในขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่ให้ความเห็นเรื่องนโยบายการศึกษาและวิชาการศึกษาทั่วไปแก่กระทรวงศึกษาธิการ ควบคุมจรรยาและวินัยของครู รักษาผลประโยชน์ส่งเสริมฐานะของครู จัดสวัสดิการให้ครูและครอบครัวได้รับความช่วยเหลือตามสมควร ส่งเสริมความรู้และความสามัคคีของครู
     ในทุก ๆ ปี คุรุสภาได้ให้มีการประชุมสามัญคุรุสภาประจำปี เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้แทนครูจากทั่วประเทศแถลงผลงานในรอบปีที่ผ่านมา และซักถามข้อข้องใจต่าง ๆ เกี่ยวกับการดำเนินงานของคุรุสภา โดยมีคณะกรรมการอำนวยการคุรุสภาเป็นผู้ตอบข้อสงสัย
 
การจัดงานวันครูในส่วนกลาง

      มีการจัดงานวันครูครั้งแรกขึ้น ในวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2500 ในส่วนกลางใช้สถานที่ของกรีฑาสถานแห่งชาติเป็นที่จัดงาน ปัจจุบันในส่วนกลางจัดที่หอประชุมคุรุสภา โดยคณะกรรมการจัดงานวันครู ซึ่งมีปลัดกระทรวงศึกษาธิการเป็นประธาน
     พิธีจะเริ่มขึ้นในตอนเช้า โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ประธานกรรมการอำนวยการคุรุสภา คณะกรรมการอำนวยการคุรุสภา คณะกรรมการจัดงานวันครู พร้อมด้วยครูอาจารย์ และประชาชนทั่วไปร่วมกันใส่บาตรพระสงฆ์ หลังจากนั้นจึงเข้าร่วมพิธีในหอประชุมคุรุสภา นายกรัฐมนตรีเดินทางมาเป็นประธานในงาน ดนตรีบรรเลงเพลงมหาฤกษ์ นายกรัฐมนตรีบูชาพระรัตนตรัย ประธานสงฆ์ให้ศีล รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการกล่าวรายงานต่อนายกรัฐมนตรี เสร็จแล้วมีพิธีบูชาบูรพาจารย์ โดยครูอาวุโสนอกประจำการจะเป็นผู้กล่าวนำพิธีสวดคำฉันท์รำลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์
     จากนั้นประธานจัดงานวันครูจะเชิญผู้ร่วมประชุมยืนสงบ 1 นาที เพื่อระลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์ที่ล่วงลับไปแล้ว ต่อด้วยครูอาวุโสในประจำการนำผู้ร่วมประชุมกล่าวปฏิญาณ
 
การจัดงานในส่วนภูมิภาค

      ในการจัดงานวันครูในส่วนภูมิภาค มอบให้จังหวัดเป็นผู้ดำเนินการ โดยตั้งคณะกรรมการจัดงานวันครูขึ้นเช่นเดียวกับส่วนกลาง จะจัดรวมกันที่จังหวัดหรือจัดแต่ละอำเภอก็ได้
     งานวันครูได้กำหนดเป็นหลักการ ให้มีอนุสรณ์สำคัญ คือ หนังสือประวัติครู หนังสือที่ระลึกวันครู และสิ่งก่อสร้างที่เป็นถาวรวัตถุ เพื่อเป็นอนุสรณ์สำคัญแก่อนุชนรุ่นหลัง
      การจัดงานวันครูได้ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงกิจกรรมให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมตลอดเวลา ในปัจจุบันได้จัดรูปแบบการจัดงานวันครูให้มีกิจกรรมเป็น  3  ประเภทใหญ่ ๆ ดังนี้
     1. กิจกรรมทางศาสนา
     2. พิธีรำลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์ การประกอบพิธีปฏิญาณตน การให้รางวัลเพื่อเป็นการยกย่องส่งเสริมครูอาจารย์ที่มีผลงานความสามารถจนเป็นที่ยกย่อง
     3. จัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อความสามัคคีระหว่างผู้ประกอบอาชีพครู เช่น การแข่งขันกีฬา การจัดงานรื่นเริงสังสรรค์ ฯลฯ
 

คำปฏิญาณ

ข้อ 1 ข้าจะบำเพ็ญตนให้สมกับที่ได้ชื่อว่าเป็นครู
ข้อ 2 ข้าจะตั้งใจฝึกสอนศิษย์ให้เป็นพลเมืองดีของชาติ
ข้อ 3 ข้าจะรักษาชื่อเสียงของคณะครูและบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม
จากนั้นพระสงฆ์เจริญชัยมงคล แล้วต่อด้วยนายกรัฐมนตรีมอบรางวัลครูดีเด่นประจำปี มอบของที่ระลึกให้ครูอาวุโสนอกและในประจำการ สุดท้ายกล่าวปราศรัยกับคณะครูที่มาประชุม


กิจกรรมต่าง ๆ ที่ควรปฏิบัติในวันครู


     1. ร่วมกิจกรรมทางศาสนา ทำบุญใส่บาตรพระสงฆ์ กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้แกบรรดาบูรพาจารย์ผู้ล่วงลับ
     2. ส่งบัตรอวยพร หรือไปเยี่ยมเยือนครูอาจารย์ที่เคยให้ความรู้อบรมสั่งสอน เพื่อเป็นการรำลึกถึงคุณงามความดี และแสดงความกตัญญูกตเวที
     3. ร่วมพิธีบูชาบูรพาจารย์
     4. ร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดขึ้น เช่น นิทรรศการเกี่ยวกับครู การเรียนการสอน หรือกิจกรรมการกุศลที่หารายได้สมทบกองทุนช่วยเหลือครู เป็นต้น

 







บทสวดเคารพครูอาจารย์



     (สวดนำ) ปาเจราจริยาโหนฺติ(รับพร้อมกัน) คุณุตฺตรานุสาสกา
ปญฺญาวุฑฺฒิกเร เต เตทินฺโนวาเท นมามิหํ
 (สวดทำนองสรภัญญะ)
      (สวดนำ) อนึ่งข้าคำนับน้อม (รับพร้อมกัน) ต่อพระครูผู้การุณย์
โอบเอื้อและเจือจุนอนุศาสน์ทุกสิ่งสรรพ์
     ยัง บ ทราบก็ได้ทราบทั้งบุญบาปทุกสิ่งอัน
ชี้แจงและแบ่งปันขยายอรรถให้ชัดเจน
     จิตมากด้วยเมตตาและกรุณา บ เอียงเอน
เหมือนท่านมาแกล้งเกณฑ์ให้ฉลาดและแหลมคม
     ขจัดเขลาบรรเทาโมหะจิตมืดที่งุนงม
กังขา ณ อารมณ์ก็สว่างกระจ่างใจ
     คุณส่วนนี้ควรนับถือว่าเลิศ ณ แดนไตร
ควรนึกและตรึกในจิตน้อมนิยมชม
(กราบ)


คุณสมบัติของครูอาจารย์ที่ดี


1. ประพฤติตัวให้เป็นที่รัก (ปิโย)
2. มีใจหนักแน่นทำตนให้น่ายำเกรง (ครุ)
3. อบรมตนเองสม่ำเสมอ (ภาวนีโย)
4. ฉลาดสอน ฉลาดพูด (วตฺตา)
5. อดทนต่อถ้อยคำล่วงเกิน (วจนกฺขโม)
6. พูดเรื่องลึกซึ้งให้เข้าใจลึกซึ้งได้ (คมฺภีรํ กถํ กตฺตา)
7. ไม่ชักนำศิษย์ไปในทางเสียหาย (โน จฎฺฐาเน นิโยชเย)


หน้าที่ของครูอาจารย์พึงมีต่อศิษย์


1. แนะนำดี
2. ให้เรียนดี
3. บอกศิลปให้สิ้นเชิง ไม่ปิดบังอำพราง
4. ยกย่องให้ปรากฎในเพื่อนฝูง
5. ทำความป้องกันในทิศทั้งหลาย


หน้าที่ของศิษย์พึงมีต่อครูอาจารย์


1. ให้การต้อนรับ
2. เสนอตัวรับใช้
3. เชื่อฟัง
4. คอยปรนนิบัติ
5. เรียนศิลปวิทยาโดยเคารพ


เพลงวันครู
เพลงพระคุณที่สามครูบาอาจารย์ ที่ท่านประทาน ความรู้มาให้
อบรมจิตใจ ให้รู้ผิดชอบ ชั่วดี 
ก่อนจะนอน สวดมนต์อ้อนวอนทุกที ขอกุศล 
บุญบารมี ส่งเสริมครูนี้ให้ร่มเย็น 
     ครูมีบุญคุณ จะต้องเทิดทูน เอาไว้เหนือเกล้า 
ท่านสั่งสอนเรา อบรมให้เรา ไม่เว้น 
ท่านอุทิศ ไม่คิดถึงความยากเย็น สอนให้รู้ จัดเจน
เฝ้าแนะ เฝ้าเน้น มิได้อำพราง 
   * พระคุณที่สาม งดงามแจ่มใส แต่ว่าใครหนอใคร
เปรียบเปรย ครูไว้ ว่าเป็นเรือจ้าง 
ถ้าหากจะคิด ยิ่งคิดยิ่งเห็น ว่าผิดทาง 
มีใครไหนบ้าง แนะนำแนวทาง อย่างครู 
     บุญเคยทำมา ตั้งแต่ปางใด เรายกให้ท่าน 
ตั้งใจกราบกราน เคารพคุณท่าน กตัญญู 
โรคและภัย อย่ามาแผ่วพาน คุณครู ขอกุศลผลบุญค้ำชู
ให้ครูมีสุข ชั่วนิรันดร ให้ครูมีสุข ชั่วนิรันดร

ดอกไม้ประจำวันครู

ภาพในวันครู
UntitledUntitled

พานที่จัดทำในวันครู
พานไหว้ครูUntitled
พานไหว้ครู

วันครู

วันครูแห่งชาติ

วันอังคารที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2554

สวัสดีปีใหม่




วาระดิถี วันดี ขึ้นปีใหม่
ขออวยชัย ให้ทุกท่าน จงสุขี
ไร้ทุกข์โศก ไร้โรคภัย มาราวีให้มั่งมี สุขสมหวัง ดั่งตั้งใจ



ให้สุนต์สันต์สดใสปีใหม่นี้
ใสชื่นรื่นชีวีดังใจฝัน
ให้ทรัพย์สิ้นเพิ่มพูนคูณอนันต์
ให้ทุกวันคนนิยมชมชอบเอย


ในวันนี้ วันดี วันปีใหม่
ขอให้ใจ ทุกท่าน นั้นสมหวัง
คิดอะไร สมหวัง นั้นฉับผลัน
เมื่อท่านโหวต กลอนของฉัน นั้นสุขเอย
อาจจะซ้ำของใครหรือไม่ซ้ำ
ถ้าซ้ำก็ขอโทษด้วยนะคะ


สวัสดีปีใหม่หัวใจสุข
จงห่างทุกข์ทุกคนดลสุขสันต์
สิ่งมงคลผลบุญหนุนลาภครันจงเจริญนิจนิรันดร์สรรสุขเอย

ปี..เสือต้องผันผ่าน
ใหม่..คือกระต่ายเข้ามารับเหมือนขับไล่
ขอ..ทุกท่านห่างจากโรคมีโชคชัย
ให้..สุขสบายถ้วนทั่วทุกหัวระแหง
โชค..อำนวยอวยชัยให้มีโชค
ดี..ทั้งโลกเรื่องสินค้าอย่าขายแพง
ตลอด..ปีปลอดสีเหลืองไร้สีแดง
ไป..ทุกแห่งไม่แบ่งขั้วทั่วไทยแลนด์ 



สวดมนต์ข้ามปี เริ่มต้นดี ชีวิตดี ในปีใหม่” เพื่อมงคลชีวิต เจ้าอาวาสวัดยานนาวา แนะคนไทยยึดพระธรรมคำสอน ช่วยบ้านเมืองหายบอบช้ำ เห็นควรเสนอเป็นวาระแห่งชาติ เตรียมถ่ายทอดสดเคาท์ดาวน์ธรรมจากวัดราชนัดดารามวรวิหาร

       โดยคืนวันที่ 31 ธ.ค. จะมีกิจกรรมพิธีเจริญพระพุทธมนต์และถ่ายทอดสด จากวัดราชนัดดารามวรวิหาร ซึ่ง
ถือเป็นปีแรกที่มีการอัญเชิญพระบรม
สารีริกธาตุ ที่เก็บรักษาไว้ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 มาประดิษฐานในพระอุโบสถ เพื่อให้ประชาชนได้สักการะในคืนข้ามปีใหม่
ก่อนที่จะมีพิธีอัญเชิญ
ไปบรรจุที่ยอด ภูเขาทองต่อไป

       กิจกรรมการสวดมนต์ข้ามปี ควรได้มีการจัดขึ้นที่วัดสถานปฏิบัติธรรมในทั่วโลก ทั้งนี้คำสอนของพระพุทธเจ้าอย่างหนึ่ง คือ ไม่ควรคิดถึงเรื่องอดีต แต่อยู่กับ
ปัจจุบัน เอาความผิดพลาดในอดีต มาพิจารณาเพื่อแก้ไข

       ทั้งนี้ เยาวชนจากวิทยุ ไทยเพื่อเด็กและครอบครัว FM 105 ได้นำสมุดสวดมนต์ยักษ์ มอบให้ นายอภิสิทธิ์ ได้ร่วมเขียนอวยพรปีใหม่ให้กับคนไทย พร้อมเชิญ
ชวนให้คนไทยร่วมสวดมนต์ ในคืนข้ามปี จากนั้นคณะเยาวชนนำสวดบทพระพุทธคุณ 9 จบ ซึ่งได้รับความสนใจจากคณะรัฐมนตรี และสื่อมวลชนอย่างมาก




ถ้าอยากได้ของขวัญจากซานต้าปีนี้ต้องมาเคาท์ดาวน์ด้วยกันนะ


ปีใหม่เข้าหน้าหนาวดูแลสุขภาพตัวเองด้วย
ปีใหม่นี้ไปเคาท์ดาวน์ด้วยกันนะ
ขอให้โชคดี ขอให้มีสุข