พบร่องรอยคล้ายพญานาคโผล่ใกล้หิ้งพระ ในทาวน์โฮม3ชั้นกลางกรุงเทพฯ เจ้าของเผย ตั้งใจไหว้พระปฎิบัติธรรม จนพบ"รอยพญานาค"ดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (31 ส.ค.) พบร่องรอยประหลาดคล้ายพญานาคอยู่ในบ้านเลขที่ 197/4 ซอยสุขุมวิท 31 หรือซอยสวัสดี แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา โดยบ้านดังกล่าวเป็นทาวน์โฮมสูง 3 ชั้นครึ่งมีนางสำอาง เอ็ดเวิร์ด อายุ 46 ปี เป็นเจ้าของบ้าน ตรวจสอบภายในห้องพระบนชั้น 3 พบร่องรอยคล้ายคราบโคลน ที่เกิดจากการเลื้อยของสัตว์เลื้อยคลานอยู่บริเวณใต้โต๊ะหมู่บูชา เลื้อยขึ้นไปบนกำแพงห้องด้านหลังโต๊ะหมู่บูชาทั้งด้านซ้ายและขวา
นางสำอาง เปิดเผยว่า ช่วงออกพรรษาปี 52 มีเพื่อนพาไปทอดกฐินที่วัดซับไพเราะ ต.ซับไม้แดง อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ เมื่อไปถึงพบรถเก๋งจอดอยู่หน้ากุฏิหลวงพ่อสมชาย ตะปะสี เจ้าอาวาสมีร่องรอยประหลาดคล้ายพญานาคเลื้อยติดอยู่ฝากระโปรงหน้ารถ
"บนกุฏิและที่กำแพงโบสถ์ก็เห็นร่องรอยแบบเดียวกันติดอยู่ สาเหตุชาวบ้านบอกว่าร่องรอยดังกล่าวจะไปปรากฏให้เห็นกับผู้ที่หมั่นทำบุญสร้างความดีและสวดมนต์ไหว้พระเป็นประจำ ดิฉันกลับมาก็ตั้งใจปฏิบัติธรรม จุดธูปเทียนสวดมนต์ไหว้พระทุกเช้า กระทั่งมาพบรอยดังกล่าวในบ้าน" นางสำอาง
วันพุธที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2554
วันอังคารที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2554
ข่าวสารวันที่ 31 สิงหาคม 2554
เฉลิม ลั่นอีกไม่เกิน 7 วัน ได้ผบ.ตร. คนใหม่ ระบุถึงเวลาคืนความเป็นธรรมให้กับ พล.ต.อ.เพรียวพันธุ์ วอนอย่ามองเป็นการเปลี่ยนเพื่อให้ญาติของทักษิณ มาดำรงตำแหน่ง
(30 ส.ค.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีการปรับเปลี่ยน ผบ.ตร. ภายหลังหลังการประชุมสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ก.ตร.) ว่า การปรับเปลี่ยนนั้นเป็นการปรับเปลี่ยนเพื่อใช้คนให้ถูกกับงาน เมื่อถึงเวลาจะบอกให้ทราบ อย่าไปมองว่าเป็นการเปลี่ยนเพื่อให้ญาติของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มาดำรงตำแหน่ง ถามว่า ตอนปฏิวัติ ย้าย พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ทำไม เพราะคุณเพรียวพันธ์ เป็นญาติท่านทักษิณ ต้องให้ความเป็นธรรม ทำไมต้องเอาเขาไปสำนักนายกฯ เพราะคุณปฏิวัติ เพราะเผด็จการ
เมื่อถามว่า ถึงเวลาคืนความเป็นธรรมให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ แล้วใช่หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า นั่นก็เป็นส่วนหนึ่งที่ตนคิด แต่วิธีปฏิบัติก็ต้องมีขั้นตอน ตนจะทำอะไรตามใจไม่ได้ มันต้องรอความเหมาะสม ทั้งจังหวะ เวลา เหตุผล เรื่องสำคัญที่สุดต้องตอบสังคมได้ ตนถามนิดนึงว่า ตอนคุณอภิสิทธิ์ ย้ายคุณพัชรวาท อาศัยเหตุผลอะไร ตอน คุณสุรยุทธ์ ย้าย คุณโกวิท มีเหตุผลอะไร ไม่มีตำตอบให้สังคม โดยคาดว่าภายใน 7 วันกรณีย้าย ผบ.ตร. น่าจะมีความชัดเจน
(30 ส.ค.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีการปรับเปลี่ยน ผบ.ตร. ภายหลังหลังการประชุมสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ก.ตร.) ว่า การปรับเปลี่ยนนั้นเป็นการปรับเปลี่ยนเพื่อใช้คนให้ถูกกับงาน เมื่อถึงเวลาจะบอกให้ทราบ อย่าไปมองว่าเป็นการเปลี่ยนเพื่อให้ญาติของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มาดำรงตำแหน่ง ถามว่า ตอนปฏิวัติ ย้าย พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ทำไม เพราะคุณเพรียวพันธ์ เป็นญาติท่านทักษิณ ต้องให้ความเป็นธรรม ทำไมต้องเอาเขาไปสำนักนายกฯ เพราะคุณปฏิวัติ เพราะเผด็จการ
เมื่อถามว่า ถึงเวลาคืนความเป็นธรรมให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ แล้วใช่หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า นั่นก็เป็นส่วนหนึ่งที่ตนคิด แต่วิธีปฏิบัติก็ต้องมีขั้นตอน ตนจะทำอะไรตามใจไม่ได้ มันต้องรอความเหมาะสม ทั้งจังหวะ เวลา เหตุผล เรื่องสำคัญที่สุดต้องตอบสังคมได้ ตนถามนิดนึงว่า ตอนคุณอภิสิทธิ์ ย้ายคุณพัชรวาท อาศัยเหตุผลอะไร ตอน คุณสุรยุทธ์ ย้าย คุณโกวิท มีเหตุผลอะไร ไม่มีตำตอบให้สังคม โดยคาดว่าภายใน 7 วันกรณีย้าย ผบ.ตร. น่าจะมีความชัดเจน
วันจันทร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2554
ข่าวสารวันที่30 สิงหาคม 2554
พรทิพย์" มือส่งเมล์ขู่นักข่าวช่อง7 โอดกำลังถูกสื่อคุกคามเสรีภาพ ด้านกลุ่มคนเสื้อแดงนัดรวมพลจ่อบุกช่อง 7 วันนี้ จี้ปลดนักข่าวสาว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (29 ส.ค.) เว็บไซต์คนเสื้อแดง thaienews.blogspot.com ได้เผยว่า น.ส.พรทิพย์ ปักษานนท์ แกนนำเสื้อแดงเพชรบุรี ซึ่งถูกนักข่าวช่อง 7 สีดำเนินคดีและประกาศไม่ถอนแจ้งความ เปิดเผยว่า เรื่องมีอยู่ว่า ข่าวที่ส่งอีเมล์นั้น ไม่ได้เขียนเอง แต่ได้คัดสำเนามาจากเว็บไซต์แห่งหนึ่ง โดยไม่ได้เขียนต่อเติมใดๆลงไปเลย โดยมีเจตนาส่งไปยังเพื่อนๆในกลุ่มที่ส่งข่าวสารกันทางอีเมล์ให้ได้อ่าน ซึ่งก็ปฏิบัติแบบนี้เป็นปกติ
ทีนี้ก็เห็นมีแถลงการณ์ของ สส.ปชป.สงขลา ออกมาขานรับนักข่าวว่าแกนนำเสื้อแดงเพชรบุรีคุกคามนักข่าว
ดิฉันเองก็ตกเป็นผู้เสียหายเช่นกัน เพราะการที่นักข่าวผู้นี้นำอีเมล์ของดิฉันไปเปิดเผย พร้อมชื่อนามสกุล ทำให้มีคนส่งอีเมล์มาด่าหยาบๆคายมากมาย ซึ่งก็เซฟเก็บไว้ทั้งหมดแล้ว
การที่นักข่าวไปแจ้งความนั้น ความจริงแล้วไม่สามารถเอาผิดได้ ไม่ว่า พรบ.คอมพิวเตอร์ หรือ ข้อหา ข่มขู่ คุกคาม ก็ไม่เข้าข้อกฏหมายใดๆทั้งสิ้น ตำรวจคงจะบอกว่าเอาความไม่ได้ นักข่าวรายนี้จึงออกมาบอกว่า แจ้งความไว้เป็นหลักฐาน ก็รออยู่ค่ะ อยากให้เขาฟ้อง เราก็ได้จะฟ้องกลับทันที
ทั้งที่เราก็ได้แสดงสปิริต ตามที่วิญญูชน จะพึงกระทำแล้ว โดยขอโทษทั้งๆที่ไม่ผิด เราไม่ได้ส่งให้นักข่าวคนนี้เลย ไม่ได้เผยแพร่ในวงกว้างอะไรเลย เราส่งให้ในกลุ่มเพื่อนเสื้อแดง การที่เขาทำอย่างนี้ เราในฐานะประชาชนกำลังถูกสื่อคุกคามเสรีภาพ กำลังถูกละเมิดสิทธิของความเป็นมนุษย์ ที่สำคัญถูกละเมิดโดยสื่อ สื่อ ฐานันดร ที่ใครก็แตะไม่ได้วิจารณ์ไม่ได้
ยิ่งพวกสมาคมสื่อ ลงมาออกหน้าแบบนี้ เห็นควรว่าน่าจะหันกลับไปดูความเป็นองค์กร ที่ทำข่าวสู่สายตา ประชาชนแล้ว ลุกขึ้นมา ประกาศต่อๆกันไป โดยไม่ได้หันกลับมาดู พิสูจน์ด้วยสายตาว่าข้อเท็จจริงนั้นคนที่พวกตนกล่าวหานั้น เป็นจริงหรือไม่? ผิดวิสัยของความเป็นนักข่าว ดิฉันคิดว่าใคร? กันแน่ที่ถูกคุกคาม ใคร? มาละเมิดสิทธิมนุษยชน...ใคร? รังแกประชาชน" น.ส.พรทิพย์ กล่าว
ทั้งนี้ กลุ่มคนเสื้อแดงในนาม"สมัชชาประชาชนเพื่อการปฏิวัตประเทศไทย"ได้นัดหมายกันตามสื่อต่างๆ ทั้งโซเชียลมีเดีย และเว็บบอร์ดประชาทอล์กว่า ในวันอังคารที่ 30 สิงหาคม เวลา 13.00 น. ขอเรียนเชิญ พี่น้องเสื้อแดงไปพร้อมกันที่ สถานีรถไฟฟ้าหมอชิต เพื่อเดินทางไปโดยพร้อมเพรียงกันไปยัง สถานีวิทยุโทรทัศน์ช่อง 7 เพื่อยื่นแถลงการณ์ให้ปลดนักข่าวรายนี้ ออกจากหน้าที่ เพราะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความมีอคติ ปฏิบัติหน้าที่เพื่อสนองความต้องการของตัวเอง ไร้จรรยาบรรณของสื่อมวลชนที่ดี และยื่นพวงหรีดเพื่อแสดงการต่อต้านที่ ช่อง 7 สนับสนุนให้นักข่าวปฏิบัติหน้าที่ ทั้งที่ ไร้จรรยาบรรณ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (29 ส.ค.) เว็บไซต์คนเสื้อแดง thaienews.blogspot.com ได้เผยว่า น.ส.พรทิพย์ ปักษานนท์ แกนนำเสื้อแดงเพชรบุรี ซึ่งถูกนักข่าวช่อง 7 สีดำเนินคดีและประกาศไม่ถอนแจ้งความ เปิดเผยว่า เรื่องมีอยู่ว่า ข่าวที่ส่งอีเมล์นั้น ไม่ได้เขียนเอง แต่ได้คัดสำเนามาจากเว็บไซต์แห่งหนึ่ง โดยไม่ได้เขียนต่อเติมใดๆลงไปเลย โดยมีเจตนาส่งไปยังเพื่อนๆในกลุ่มที่ส่งข่าวสารกันทางอีเมล์ให้ได้อ่าน ซึ่งก็ปฏิบัติแบบนี้เป็นปกติ
ทีนี้ก็เห็นมีแถลงการณ์ของ สส.ปชป.สงขลา ออกมาขานรับนักข่าวว่าแกนนำเสื้อแดงเพชรบุรีคุกคามนักข่าว
ดิฉันเองก็ตกเป็นผู้เสียหายเช่นกัน เพราะการที่นักข่าวผู้นี้นำอีเมล์ของดิฉันไปเปิดเผย พร้อมชื่อนามสกุล ทำให้มีคนส่งอีเมล์มาด่าหยาบๆคายมากมาย ซึ่งก็เซฟเก็บไว้ทั้งหมดแล้ว
การที่นักข่าวไปแจ้งความนั้น ความจริงแล้วไม่สามารถเอาผิดได้ ไม่ว่า พรบ.คอมพิวเตอร์ หรือ ข้อหา ข่มขู่ คุกคาม ก็ไม่เข้าข้อกฏหมายใดๆทั้งสิ้น ตำรวจคงจะบอกว่าเอาความไม่ได้ นักข่าวรายนี้จึงออกมาบอกว่า แจ้งความไว้เป็นหลักฐาน ก็รออยู่ค่ะ อยากให้เขาฟ้อง เราก็ได้จะฟ้องกลับทันที
ทั้งที่เราก็ได้แสดงสปิริต ตามที่วิญญูชน จะพึงกระทำแล้ว โดยขอโทษทั้งๆที่ไม่ผิด เราไม่ได้ส่งให้นักข่าวคนนี้เลย ไม่ได้เผยแพร่ในวงกว้างอะไรเลย เราส่งให้ในกลุ่มเพื่อนเสื้อแดง การที่เขาทำอย่างนี้ เราในฐานะประชาชนกำลังถูกสื่อคุกคามเสรีภาพ กำลังถูกละเมิดสิทธิของความเป็นมนุษย์ ที่สำคัญถูกละเมิดโดยสื่อ สื่อ ฐานันดร ที่ใครก็แตะไม่ได้วิจารณ์ไม่ได้
ยิ่งพวกสมาคมสื่อ ลงมาออกหน้าแบบนี้ เห็นควรว่าน่าจะหันกลับไปดูความเป็นองค์กร ที่ทำข่าวสู่สายตา ประชาชนแล้ว ลุกขึ้นมา ประกาศต่อๆกันไป โดยไม่ได้หันกลับมาดู พิสูจน์ด้วยสายตาว่าข้อเท็จจริงนั้นคนที่พวกตนกล่าวหานั้น เป็นจริงหรือไม่? ผิดวิสัยของความเป็นนักข่าว ดิฉันคิดว่าใคร? กันแน่ที่ถูกคุกคาม ใคร? มาละเมิดสิทธิมนุษยชน...ใคร? รังแกประชาชน" น.ส.พรทิพย์ กล่าว
ทั้งนี้ กลุ่มคนเสื้อแดงในนาม"สมัชชาประชาชนเพื่อการปฏิวัตประเทศไทย"ได้นัดหมายกันตามสื่อต่างๆ ทั้งโซเชียลมีเดีย และเว็บบอร์ดประชาทอล์กว่า ในวันอังคารที่ 30 สิงหาคม เวลา 13.00 น. ขอเรียนเชิญ พี่น้องเสื้อแดงไปพร้อมกันที่ สถานีรถไฟฟ้าหมอชิต เพื่อเดินทางไปโดยพร้อมเพรียงกันไปยัง สถานีวิทยุโทรทัศน์ช่อง 7 เพื่อยื่นแถลงการณ์ให้ปลดนักข่าวรายนี้ ออกจากหน้าที่ เพราะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความมีอคติ ปฏิบัติหน้าที่เพื่อสนองความต้องการของตัวเอง ไร้จรรยาบรรณของสื่อมวลชนที่ดี และยื่นพวงหรีดเพื่อแสดงการต่อต้านที่ ช่อง 7 สนับสนุนให้นักข่าวปฏิบัติหน้าที่ ทั้งที่ ไร้จรรยาบรรณ
ข่าวสารวันที่29 สิงหาคม 2554
หิ้วหนุ่มเมืองกรุง ยิงทิ้ง ถีบลงเหวบนเขาธง ต.ช้างกลาง อ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช
พ.ต.ท.พิชัย ภู่พรหมมินทร์ สวส.สภ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งเหตุยิงกันเหตุเกิดบนเขาธง ถนนสายช้างกลาง-นครศรีธรรมราช หมู่ที่ 14 ต.ช้างกลาง อ.ช้างกลาง หลังจากรับแจ้งจึงรุดไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมโชค จันทรมณี ผกก. พร้อมชุดสืบสวนและหน่วยกู้ภัยช้างกลาง
ที่เกิดเหตุบริเวณยอดเขาธง ซึ่งเป็นจุดชมวิวและบริเวณริมถนน พบร่างคนเจ็บนอนสลบอยู่ ตามร่างกายเต็มไปด้วยเลือด จึงรีบนำส่ง ร.พ.สมเด็จพระยุพราชฉวาง ทราบชื่อ นายวณัฐภูมิ ปัญญารอด อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 329/18 ซ.ลาดพร้าว 18 เขตวังทองหลาง กทม. มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืน ขนาด 11 มม. เข้าที่บริเวณลำตัว 1 นัด แขนขวา 1 นัด แต่เนื่องจากมีอาการสาหัส จึงส่งต่อไปยัง ร.พ.มหาราช อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช แพทย์ให้การช่วยเหลือจนพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ยังไม่สามารถให้ปากคำได้
จากการสอบสวนเบื้องต้นคาดว่า นายวณัฐภูมิ มีอาชีพขับรถแท็กซี่ใน กทม. และเพิ่งเดินทางมากับรถทัวร์โดยสาร มาลงที่ตัวเมืองนครศรีธรรมราช สันนิษฐานว่า ก่อนที่คนเจ็บจะถูกยิง อาจจะเดินทางมาพบกับคนร้ายที่รู้จักกันมาก่อนและเกิดขัดใจกันขึ้นหรืออาจจะถูกล่อลวงมาที่บนเขาธง ซึ่งเป็นจุดชมวิวแล้วถูกคนร้ายยิงทิ้งพร้อมกับถีบร่างคนเจ็บตกลงไปในเหว
พ.ต.ท.พิชัย ภู่พรหมมินทร์ สวส.สภ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งเหตุยิงกันเหตุเกิดบนเขาธง ถนนสายช้างกลาง-นครศรีธรรมราช หมู่ที่ 14 ต.ช้างกลาง อ.ช้างกลาง หลังจากรับแจ้งจึงรุดไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมโชค จันทรมณี ผกก. พร้อมชุดสืบสวนและหน่วยกู้ภัยช้างกลาง
ที่เกิดเหตุบริเวณยอดเขาธง ซึ่งเป็นจุดชมวิวและบริเวณริมถนน พบร่างคนเจ็บนอนสลบอยู่ ตามร่างกายเต็มไปด้วยเลือด จึงรีบนำส่ง ร.พ.สมเด็จพระยุพราชฉวาง ทราบชื่อ นายวณัฐภูมิ ปัญญารอด อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 329/18 ซ.ลาดพร้าว 18 เขตวังทองหลาง กทม. มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืน ขนาด 11 มม. เข้าที่บริเวณลำตัว 1 นัด แขนขวา 1 นัด แต่เนื่องจากมีอาการสาหัส จึงส่งต่อไปยัง ร.พ.มหาราช อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช แพทย์ให้การช่วยเหลือจนพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ยังไม่สามารถให้ปากคำได้
จากการสอบสวนเบื้องต้นคาดว่า นายวณัฐภูมิ มีอาชีพขับรถแท็กซี่ใน กทม. และเพิ่งเดินทางมากับรถทัวร์โดยสาร มาลงที่ตัวเมืองนครศรีธรรมราช สันนิษฐานว่า ก่อนที่คนเจ็บจะถูกยิง อาจจะเดินทางมาพบกับคนร้ายที่รู้จักกันมาก่อนและเกิดขัดใจกันขึ้นหรืออาจจะถูกล่อลวงมาที่บนเขาธง ซึ่งเป็นจุดชมวิวแล้วถูกคนร้ายยิงทิ้งพร้อมกับถีบร่างคนเจ็บตกลงไปในเหว
วันอังคารที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2554
ข่าวสารวันที่23 สิงหาคม 2554
ศึกลาลีกา สเปน เลื่อนนัดเปิดฤดูกาลไปอีกครั้ง หลัง ลีกแดนกระทิงดุ ปฏิเสธข้อเรียกร้องของสหภาพนักฟุตบอลอาชีพแห่งสเปน และยังรามไปถึงกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ที่สหภาพนักฟุตบอลอาชีพอิตาลี ขู่ว่านักเตะจะไม่ลงเล่นนัดเปิดฤดูกาลเพราะไม่พอใจข้อตกลงร่วมฉบับใหม่ ที่บีบให้ย้ายทีมได้
เมื่อวันจันทร์ที่ 22 สิงหาคม ที่ผ่านมา นัดเปิดฤดูกาลศึกลาลีกา สเปน ต้องเลื่อนไปอีกครั้ง หลัง บรรดาผู้เล่นสไตรก์ต่อ เพราะจากการเจรจาครั้งล่าสุดของ สหภาพนักฟุตบอลอาชีพแห่งสเปน (เอเอฟอี)กับ ลีกา เดอ ฟุตบอล โปรเฟสชั่นแนล (LFP) ฝ่ายจัดการแข่งขัน ล้มเหลวไม่เป็นท่าอีกครั้ง
ข้อเรียกร้องที่สหภาพนักฟุตบอลอาชีพแห่งสเปนเสนอไป คือให้มีการประกันค่าเหนื่อยของนักนักเตะถ้าทีมเจอปัญหาทางการเงิน และ สามารถยกเลิกสัญญาได้ถ้าไม่ได้รับเงินค่าจ้าง 3 เดือนติดต่อกัน แต่ถูก ลีกแดนกระทิงดุ ปฏิเสธข้อเรียกร้องดังกล่าว และจะมี การเจรจากันอีกครั้งใน วันอังคารที่ 23 สิงหาคมนี้
เรื่องการสไตรก์ ยังลุกรามไปถึงกัลโช เซเรีย อา อิตาลี เมื่อ สหภาพนักฟุตบอลอาชีพอิตาลี (เอไอซี) ออกมาขู่ว่านักเตะจะไม่ลงทำการแข่งขันในนัดเปิดฤดูกาล 2011-12 ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ หลัง นักเตะไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงร่วมฉบับใหม่ ที่จะให้นักเตะที่ไม่เป็นที่ต้องการของทีม แยกไปซ้อมเดี่ยว เพื่อบีบให้ย้ายทีม ซึ่งการประชุมจะมีขึ้นในวันอังคารนี้ เช่นกัน
เมื่อวันจันทร์ที่ 22 สิงหาคม ที่ผ่านมา นัดเปิดฤดูกาลศึกลาลีกา สเปน ต้องเลื่อนไปอีกครั้ง หลัง บรรดาผู้เล่นสไตรก์ต่อ เพราะจากการเจรจาครั้งล่าสุดของ สหภาพนักฟุตบอลอาชีพแห่งสเปน (เอเอฟอี)กับ ลีกา เดอ ฟุตบอล โปรเฟสชั่นแนล (LFP) ฝ่ายจัดการแข่งขัน ล้มเหลวไม่เป็นท่าอีกครั้ง
ข้อเรียกร้องที่สหภาพนักฟุตบอลอาชีพแห่งสเปนเสนอไป คือให้มีการประกันค่าเหนื่อยของนักนักเตะถ้าทีมเจอปัญหาทางการเงิน และ สามารถยกเลิกสัญญาได้ถ้าไม่ได้รับเงินค่าจ้าง 3 เดือนติดต่อกัน แต่ถูก ลีกแดนกระทิงดุ ปฏิเสธข้อเรียกร้องดังกล่าว และจะมี การเจรจากันอีกครั้งใน วันอังคารที่ 23 สิงหาคมนี้
เรื่องการสไตรก์ ยังลุกรามไปถึงกัลโช เซเรีย อา อิตาลี เมื่อ สหภาพนักฟุตบอลอาชีพอิตาลี (เอไอซี) ออกมาขู่ว่านักเตะจะไม่ลงทำการแข่งขันในนัดเปิดฤดูกาล 2011-12 ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ หลัง นักเตะไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงร่วมฉบับใหม่ ที่จะให้นักเตะที่ไม่เป็นที่ต้องการของทีม แยกไปซ้อมเดี่ยว เพื่อบีบให้ย้ายทีม ซึ่งการประชุมจะมีขึ้นในวันอังคารนี้ เช่นกัน
วันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2554
ข่าวสารวันที่ 22 สิงหาคม 2554
กลุ่มนักรบฝ่ายต่อต้านบุกเข้ากรุงตริโปลี เมืองหลวงของลิเบีย ได้แล้ว โดยอ้างว่าสามารถยึดเมืองทั้งหมด ยกเว้นฐานที่มั่นบับ อัล อาซิซิยา จาซีราของ พ.อ.มูอัมมาร์ กัดดาฟี
(22 ส.ค.) สถานีโทรทัศน์อัลจาซีรารายงานว่า กลุ่มนักรบฝ่ายต่อต้านบุกเข้าจากฝั่งตะวันตกแล้วพากันยิงปืนขึ้นฟ้าแสดงความ ยินดี ขณะที่ชาวเมืองออกมาชุมนุมฉลองกันตามท้องถนน ฉีกทำลายโปสเตอร์ภาพกัดดาฟี เช่นเดียวกับชาวเมืองเบงกาซี ทางตะวันออกที่ออกมาชุมนุมยินดีเมื่อทราบข่าว
ด้านสถานีโทรทัศน์ของรัฐในลิเบียออกอากาศเสียงของ พ.อ.กัดดาฟี ที่เรียกร้อง 2 ครั้งให้ชาวลิเบียต่อสู้กับฝ่ายต่อต้านที่จะเผาเมือง ตัดน้ำตัดไฟ รวมถึงเสรีภาพ เขาจะเปิดคลังอาวุธให้ประชาชนนำไปต่อสู้ ขณะที่โฆษกรัฐบาลกล่าวว่า จะเกิดการสังหารหมู่ในกรุงตริโปลีต่อต้านให้ พ.อ.กัดดาฟี ลงจากตำแหน่งทันที เพราะฝ่ายต่อต้านบุกเข้ามาพร้อมกับความเกลียดชัง ด้านองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ระบุว่า การถ่ายโอนอำนาจในลิเบียต้องเป็นไปโดยสันติ
กรุงตริโปลีถูกยึดหลังเกิดสงครามกลางเมืองนาน 6 เดือน เนื่องจากประชาชนพร้อมใจกันลุกฮือในคืนวันเสาร์ ประสานกับกองกำลังฝ่ายต่อต้านที่บุกโอบล้อม 3 ด้าน ผู้ประสานงานของสภาการถ่ายโอนอำนาจแห่งชาติยืนยันว่า นายซาอิฟ อัลอิสลาม บุตรชายคนรองของกัดดาฟี ถูกควบคุมตัวแล้ว ส่วนนายโมฮัมเหม็ด อัลกัดดาฟี บุตรชายคนโต ยอมมอบตัวกับฝ่ายต่อต้าน เจ้าหน้าที่รัฐบาลลิเบียเผยว่า กำลังของทั้งสองฝ่ายเสียชีวิตรวมกัน 376 คน ในการต่อสู้เมื่อคืนวันเสาร์ และบาดเจ็บราว 1,000 คน.-สำนักข่าวไทย
(22 ส.ค.) สถานีโทรทัศน์อัลจาซีรารายงานว่า กลุ่มนักรบฝ่ายต่อต้านบุกเข้าจากฝั่งตะวันตกแล้วพากันยิงปืนขึ้นฟ้าแสดงความ ยินดี ขณะที่ชาวเมืองออกมาชุมนุมฉลองกันตามท้องถนน ฉีกทำลายโปสเตอร์ภาพกัดดาฟี เช่นเดียวกับชาวเมืองเบงกาซี ทางตะวันออกที่ออกมาชุมนุมยินดีเมื่อทราบข่าว
ด้านสถานีโทรทัศน์ของรัฐในลิเบียออกอากาศเสียงของ พ.อ.กัดดาฟี ที่เรียกร้อง 2 ครั้งให้ชาวลิเบียต่อสู้กับฝ่ายต่อต้านที่จะเผาเมือง ตัดน้ำตัดไฟ รวมถึงเสรีภาพ เขาจะเปิดคลังอาวุธให้ประชาชนนำไปต่อสู้ ขณะที่โฆษกรัฐบาลกล่าวว่า จะเกิดการสังหารหมู่ในกรุงตริโปลีต่อต้านให้ พ.อ.กัดดาฟี ลงจากตำแหน่งทันที เพราะฝ่ายต่อต้านบุกเข้ามาพร้อมกับความเกลียดชัง ด้านองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ระบุว่า การถ่ายโอนอำนาจในลิเบียต้องเป็นไปโดยสันติ
กรุงตริโปลีถูกยึดหลังเกิดสงครามกลางเมืองนาน 6 เดือน เนื่องจากประชาชนพร้อมใจกันลุกฮือในคืนวันเสาร์ ประสานกับกองกำลังฝ่ายต่อต้านที่บุกโอบล้อม 3 ด้าน ผู้ประสานงานของสภาการถ่ายโอนอำนาจแห่งชาติยืนยันว่า นายซาอิฟ อัลอิสลาม บุตรชายคนรองของกัดดาฟี ถูกควบคุมตัวแล้ว ส่วนนายโมฮัมเหม็ด อัลกัดดาฟี บุตรชายคนโต ยอมมอบตัวกับฝ่ายต่อต้าน เจ้าหน้าที่รัฐบาลลิเบียเผยว่า กำลังของทั้งสองฝ่ายเสียชีวิตรวมกัน 376 คน ในการต่อสู้เมื่อคืนวันเสาร์ และบาดเจ็บราว 1,000 คน.-สำนักข่าวไทย
วันพฤหัสบดีที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2554
วันวิทยาศาสอร์
ประวัติความเป็นมา ความสำคัญของวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ
18 สิงหาคม วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเป็น "พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์แห่งชาติไทย"
ความเป็นมาของวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ
วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติได้เริ่มมีขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ.2525 โดย มติของคณะรัฐมนตรี ให้มีวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติขึ้นเมื่อวันที่ 14 เมษายน พ.ศ.2525 เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเป็น "พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย" วันวิทยาศาสตร์แห่งชาตินี้เป็นเพราะพระองค์ทรงคำนวณการเกิดสุริยุปราคาที่ตำบลหว้ากอ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ.2411 ได้อย่างแม่นยำ และต่อมาได้มีการสร้าง "อุทยานวิทยาศาสตร์" ที่ บ้านหว้ากอ ต่อไปมาศึกษาที่มาของวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ
ที่มาของชื่อ วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ
ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่ออุทยานนี้ว่า "อุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์" และได้รับพระบรมราชานุญาติให้จัดสร้าง พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบรมรูปหล่อประทับนั่งบนพระเก้าอี้ฉลองพระองค์เครื่องแบบทหารเรือ ชุดเดียวกับวันที่พระองค์ท่านเสด็จพระราชดำเนินมาบ้านหว้ากอ เพื่อเป็นการระลึกถึง วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ
ภาพเกี่ยวกับ วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ 2554
รัชกาลที่ 4 กับวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ ทรงสนพระทัยวิชาคณิตศาสตร์และวิชาดาราศาสตร์ในตำราโหราศาสตร์ของไทยในที่สุดพระองค์ทรงได้ค้นคิดวิธีการคำนวณปักข์ (ครึ่งเดือนทางจันทรคติ) เพื่อประโยชน์ในการกำหนดวันธรรมสวนะ (วันพระ) ให้ถูกต้องตามการโคจรของดวงจันทร์ที่เรียกว่า "ปฏิทินปักขคณนา" (ปักขคณนาคือวิธีนับปักข์หรือรอบครึ่งเดือนของข้างขึ้นข้างแรม เป็นวิธีนับที่แม่นยำสูง) และทรงมีพระบรมราชานุญาตให้ใช้ทำปฏิทินจันทรคติพระทุกปี แทนปฏิทินฆราวาส ขณะเดียวกันพระองค์ได้ทรงค้นคิดสูตรสำเร็จในการคำนวณปักข์ออกมาในรูปกระดานไม้สี่เหลี่ยมผืนผ้า เพื่อจะได้วันพระที่ถูกต้องโดยไม่ต้องเสียเวลาคำนวณ และมีชื่อเรียกว่า "กระดานปักขคณนา" ซึ่งสิ่งเหล่านี้น่าจะเป็นสาเหตุที่จุดประกายให้พระองค์ทรงเริ่มสนพระทัยในวิชาดาราศาสตร์อย่างจริงจัง และถือเป็นเหตุของที่มาของวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติอีกทางหนึ่ง
ดาราศาสตร์ไทยและวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ
ในพระราชฐานของพระองค์ ทั้งที่กรุงเทพมหานครและต่างจังหวัดจะมีหอดูดาว โดยเฉพาะหอชัชวาลเวียงชัย ในบริเวณพระนครคีรีหรือเขาวัง พระราชวังสำหรับแปรพระราชฐาน อยู่ที่จังหวัดเพชรบุรี ที่มีความสำคัญมากในประวัติศาสตร์วิชาดาราศาสตร์ของไทย ด้วยมีพระราชประสงค์จะให้เป็นสถานที่สังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์ ในการรักษาเวลามาตรฐานของประเทศไทยต่อไป ดังนั้นหอนี้จึงเป็นอนุสรณ์แห่งสัมฤทธิผลในทางวิทยาศาสตร์เรื่องระบบเวลาพระองค์ทรงสถาปนาระบบเวลามาตรฐานขึ้นในประเทศไทย เมื่อ พ.ศ.2395 โดยสร้างพระที่นั่งภูวดลทัศไนยขึ้นในพระบรมราชวัง ใช้เป็นหอนาฬิกาหลวงบอกเวลามาตรฐานของประเทศไทยสมัยนั้น โดยมีพนักงานตำแหน่งพันทิวาทิตย์ เทียบเวลาตอนกลางวันจากดวงอาทิตย์ และพันพินิตจันทรา เทียบเวลาตอนกลางคืนจากดวงจันทร์
โครงการทางวิทยาศาสตร์และสื่อการสอนวิทยาศาสตร์
ทรงพิสูจน์ผลการคำนวนทางดาราศาสตร์-วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ
ต่อมาใน วันศุกร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ.2411 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินทางชลมารค โดยเรือพระที่นั่งอรรคราชวรเดชจากท่านิเวศวรดิษฐ์ไปยังบ้านหว้ากอ พร้อมด้วยพระราชโอรส พระราชธิดา รวมทั้งสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ฯ (รัชกาลที่ 5) ขณะพระชนมายุ 16 พรรษา กับเจ้านายชั้นผู้ใหญ่ ข้าราชบริพารจำนวนมาก ด้วยทรงตั้งพระปณิธานแน่วแน่ที่จะพิสูจน์ผลการคำนวนของพระองค์ เพื่อทอดพระเนตรสุริยุปราคาเต็มดวงที่ทรงคำนวณพยากรณ์ไว้ล่วงหน้า 2 ปี ว่าจะเกิดในวันอังคาร ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 10 ปีมะโรง สัมฤทธิศก จุลศักราช 1230
ทอดพระเนตรสุริยุปราคาเต็มดวง-ที่มาของวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ
โดยจะเห็นหมดดวงและชัดเจนที่สุด คือ ที่หมู่บ้านหัววาฬ ตำบลหว้ากอ อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตั้งแต่บริเวณ เกาะจาน ขึ้นไปถึง ปราณบุรี และลงไปถึง จังหวัดชุมพร จึงโปรดฯ ให้เจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) ไปสร้างค่ายหลวงและพลับพลาที่ประทับ พร้อมกับเชิญคณะนักดาราศาสตร์จากประเทศฝรั่งเศส และเซอร์แฮรี ออด เจ้าเมืองสิงคโปร์เดินทางมาเข้าเฝ้าฯ และร่วมในการสังเกตการณ์ ซึ่งเมื่อถึงวันอังคารที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2411 เหตุการณ์ก็เป็นไปตามที่พระองค์ทรงพยากรณ์ทุกประการ ไม่คลาดเคลื่อนแม้แต่วินาทีเดียว
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้า
ทรงได้รับการยกย่องเกียรติคุณ-ที่มาของวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ
ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เซอร์แฮรี ออด ได้ทำการบันทึกเหตุการณ์ไว้ และเมื่อ พ.ศ.2518 หม่อมหลวงปิ่น มาลากุล ได้ทำการแปลเป็นภาษาไทยในงานหว้ากอรำลึก ณ ท้องฟ้าจำลอง กรุงเทพมหานคร ว่า "พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระสำราญมาก เพราะการคำนวณเวลาสุริยุปราคาของพระองค์ ได้พิสูจน์แล้วว่าถูกถ้วนที่สุด ถูกถ้วนยิ่งกว่าที่ชาวยุโรปได้คำนวณไว้"
ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงรับเอาศิลปวิทยาการ และความคิดสมัยใหม่มาประยุกต์ใช้ในการปกครองประเทศ ด้วยเหตุนี้องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) จึงได้ประกาศยกย่องพระเกียรติคุณของพระองค์ให้ทรงเป็นบุคคลสำคัญของโลก ด้วยพระราชกรณียกิจและพระเกียรติคุณนานัปการ โดยเฉพาะพระราชกรณียกิจด้านดาราศาสตร์
สัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ
สถาปนาวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ
ทั้งนี้ สมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ มีแนวคิดว่าน่าจะถือเอาวันที่ 18 สิงหาคม เป็น วันวิทยาศาสตร์ ไทย ต่อมาวันที่ 14 เมษายน พ.ศ.2525 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็น "พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย" พร้อมทั้งกำหนดให้วันที่ 18 สิงหาคม เป็น "วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ" และต่อมาได้มีการสร้าง "อุทยานวิทยาศาสตร์" ที่ บ้านหว้ากอ เนื่องในการสถาปนาวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ
ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่ออุทยานนี้ว่า "อุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์" และได้รับพระบรมราชานุญาตให้จัดสร้าง พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบรมรูปหล่อประทับนั่งบนพระเก้าอี้ฉลองพระองค์เครื่องแบบทหารเรือ ชุดเดียวกับวันที่พระองค์ท่านเสด็จพระราชดำเนินมาบ้านหว้ากอ เพื่อเป็นการระลึกถึงบิดาแห่งวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ
ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่ออุทยานนี้ว่า "อุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์" และได้รับพระบรมราชานุญาตให้จัดสร้าง พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบรมรูปหล่อประทับนั่งบนพระเก้าอี้ฉลองพระองค์เครื่องแบบทหารเรือ ชุดเดียวกับวันที่พระองค์ท่านเสด็จพระราชดำเนินมาบ้านหว้ากอ เพื่อเป็นการระลึกถึงบิดาแห่งวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ
ดาวหางโดนาติ ( Donati a Comet) เป็นดาวหางที่มีขนาดใหญ่มาก
วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ
พระราชกรณียกิจทางด้านดาราศาสตร์ของรัชกาลที่ 8
เนื่องจากวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่ หัว ทรงโปรดฯ ให้สร้างหอดูดาวบนเขาวัง ในจังหวัดเพชรบุรี เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๐๓ พระราชทานนามว่า "หอชัชวาลเวียงชัย" ซึ่งตลอดพระชนม์ชีพของพระองค์ ได้เคยทอดพระเนตรดาวหาง 3 ดวงคือ
ดาวหางฟลูกเกอร์กูส วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ
ดาวหางฟลูเกอร์กูส (Flaugergues s Comet) เป็นดาวหางที่มีขนาดใหญ่และมีหาง 2 หาง ปรากฏในรัชสมัย พระพุทธเลิศหล้านภาลัย เมื่อ พ.ศ. 2355 ขณะนั้นเจ้าฟ้ามงกฏมีพระชันษาราว 8 ปี เมื่อทรงเห็นแล้ว คงจะทรงติดตามศึกษาเรื่องดาวหางอยู่เสมอ เพราะว่าก่อนดวงที่ 2 จะมาปรากฏ พระองค์สามารถทรงนิพนธ์ประกาศฉบับแรกชื่อว่า " ประกาศดาวหางขึ้นอย่าได้วิตก" แจ้งแก่ประชาชน"
ดาวหางโดนาติ วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ
ดาวหางโดนาติ ( Donati a Comet) เป็นดาวหางที่มีขนาดใหญ่มาก นักดาราศาสตร์อิตาเลียนค้นพบในคืนวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ 2401 และคืนต่อๆมา จนถึงวันที่ 4มีนาคม พ.ศ. 2402 (รวมเวลา ๙ เดือน) ชาวไทยคงจะเห็นด้วยตาเปล่า ระหว่างเดือนกันยายน-ตุลาคม พ.ศ. 2401 ดาวหางดังกล่าวมีลักษณะเป็น 2 หาง หางหนึ่งเหยียดตรง อีกหางหนึ่งเป็นพู่โค้งสวยงามอยู่ราว 2 เดือน พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเกรงว่า เมื่อประชาชนเห็นดาวหางโดนาติ แล้วจะตื่นเต้นไปตามคำลือต่างๆ จึงทรงออกประกาศเตือนชื่อว่า "ประกาศดาวหางขึ้นอย่าได้วิตก" นับเป็นประกาศทางวิทยาศาสตร์ฉบับแรกของประเทศ มีความว่า "ดาวหางนี้ชาวยุโรปได้เห็นมาแล้วหลายเดือน ดาวหางนี้มีคติแลทางยาวไปในท้องฟ้า แล้วก็กลับมาได้เห็นในประเทศทั้งนี้อีก เพราะเหตุนี้อย่าให้ราษฎรทั้งปวงตื่นกัน และคิดวิตกเล่าลือไปต่างๆ ด้วยว่ามิใช่จะเห็นแต่ในพระนครนี้ และเมืองที่ใกล้เคียงเท่านั้นหามิ ได้ย่อมได้เห็นทุกบ้านทุกเมืองทั่วพิภพอย่างนี้แล"
นิทรรศการวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ
ดาวหางเทพบุท วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ
ดาวหางเทพบุท (Tebbut s Comet ) เป็นดาวหางที่มีขนาดใหญ่ หางยาว และสว่างกว่าดาวหางโดนาติ ปรากฏแก่สายตาชาวโลก ระหว่างเดือนมิถุนายน - กรกฎาคม พ.ศ. 2404 เป็นดาวที่พระองค์ทรงสนพระราชหฤทัยมากยิ่งขึ้น ถึงกับทรงได้คำนวณไว้ล่วงหน้าว่า จะปรากฏเมื่อใด และได้ทรงออกประกาศไว้ล่วงหน้า มิให้ประชาชนตื่นตระหนก ทั้งนี้เพราะพระองค์ มีพระราชประสงค์มุ่งขจัดความเชื่อ เกี่ยวกับเรื่องโชคลาง และทรงให้ราษฎรตั้งอยู่ในความไม่ประมาท เตรียมพร้อมที่จะเผชิญเหตุการณ์ (ถ้าจะเกิด) อย่างมีเหตุผลตามแบบวิทยาศาสตร์
นอกจากนี้ เมื่อปี พ.ศ. 2527 กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้จัดงานสัปดาห์วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติขึ้นเป็นครั้งแรก ระหว่างวันที่ 18 - 24 สิงหาคม โดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานราชการต่างๆ เพื่อจัดงานวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ จนได้รับความสนใจเข้าร่วมงานวันวิทยาศาสตร์แห่งชาตินี้ ทั้งจากภาครัฐ เอกชน และประชาชนทั่วไป ซึ่งทำให้คณะรัฐมนตรีได้เล็งเห็นความสำคัญของวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ ดังนั้น เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2528 คณะรัฐมนตรีจึงได้อนุมัติให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ดำเนินการจัดงาน "สัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ" เพราะมีเหตุมาจากวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ เป็นประจำทุกปี ระหว่าง วันที่ 18 - 24 สิงหาคม
ร่วมกิจกรรมในวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ
ความหมายของคำศัพท์ในวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ
วิทยาศาสตร์ หมายถึง
วิทยาศาสตร์ หมายถึง ความรู้เกี่ยวกับสิ่งต่างๆในธรรมชาติทั้งที่มีชีวิตและไม่มีชีวิตรวมทั้งกระบวนการประมวลความรู้เชิงประจักษ์ที่เรียกว่ากระบวนการทางวิทยาศาสตร์และกลุ่มขององค์ความรู้ที่ได้จากกระบวนการดังกล่าว
การศึกษาในด้านวิทยาศาสตร์ยังถูกแบ่งย่อยออกเป็น วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ และ วิทยาศาสตร์ประยุกต์คำว่า science ในภาษาอังกฤษ ซึ่งแปลว่า วิทยาศาสตร์นั้น มาจากภาษาลาติน คำว่า scientia ซึ่งหมายความว่า ความรู้ ในคริสต์ศตวรรษที่ 17 ฟรานซิส เบคอนได้พยายามคิดค้นวิธีมาตรฐานในการอุปนัย เพื่อนำมาใช้สร้างทฤษฎีหรือกฎต่างๆ ทางวิทยาศาสตร์จากข้อมูลที่ทดลองหรือสังเกตได้จากธรรมชาติ
ภาพกิจกรรมเนื่องในวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ
กิจกรรมวันงานวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ 2554
ร่วมกิจกรรมวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติกันดารานักแสดง
วัตถุประสงค์ของการจัดงานวันสัปดาห์วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ 2554
1. เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติและพระปรีชาสามารถทางด้านวิทยาศาสตร์ของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว อันเป็น"พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย" ในวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ
2. เพื่อเป็นการส่งเสริมและเผยแพร่ผลงานการค้นคว้าวิจัยทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งมีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการพัฒนาประเทศ
3. เพื่อสนับสนุนให้กำลังใจและโอกาสแก่นักวิจัย นักประดิษฐ์ ได้แสดงผลงานต่อสาธารณชน
4. เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่าภาครัฐและเอกชนในการนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปใช้ในการพัฒนาประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ
5. เพื่อเสริมสร้างบรรยากาศทางวิทยาศาสตร์ อันเป็นวิถีทางหนึ่งของการแก้ปัญหาการขาดแคลนกำลังคนทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
2. เพื่อเป็นการส่งเสริมและเผยแพร่ผลงานการค้นคว้าวิจัยทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งมีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการพัฒนาประเทศ
3. เพื่อสนับสนุนให้กำลังใจและโอกาสแก่นักวิจัย นักประดิษฐ์ ได้แสดงผลงานต่อสาธารณชน
4. เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่าภาครัฐและเอกชนในการนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปใช้ในการพัฒนาประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ
5. เพื่อเสริมสร้างบรรยากาศทางวิทยาศาสตร์ อันเป็นวิถีทางหนึ่งของการแก้ปัญหาการขาดแคลนกำลังคนทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ในงานสัปดาห์ วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ 2554 ได้มีการจัดกิจกรรมทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมากมาย เช่น นิทรรศการ ผลงานวิจัย สิ่งประดิษฐ์ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การอภิปรายทางวิชาการ การตอบปัญหาทางวิทยาศาสตร์ การประกวดการแข่งขันต่าง ๆ เช่น โครงการทางวิทยาศาสตร์และสื่อการสอนวิทยาศาสตร์ เป็นต้น ก็ล้วนถูกนมาแสดงในวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติทั้งสิ้น
ในการจัดงาน สัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ 2554 ได้มีการมอบรางวัลให้แก่ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นนักวิทยาศาสตร์ดี เด่นในสาขาวิชาต่าง ๆ โดยจะทำพิธีมอบรางวัลเชิดชูเกียรติในวันที่ 18 สิงหาคม ของทุกปี การจัดงาน สัปดาห์วิทยาศาสตร์ นับได้ว่ามีส่วนที่จะช่วยกระตุ้นให้ประชาชนคนไทย ได้ตระหนักถึงความสำคัญของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาประเทศให้ เจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้น
ข่าวสาร
‘เพรียวพันธ์’สั่งเทียบดีเอ็นเอ เจ้าอาวาสยืนยันเหยื่อพายุเกย์ แฉยังมีอีก4วัด200ศพฝังปี53
“พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์” ผบช.กมค.เดินหน้าลุยพิสูจน์ความจริง กรณีศพนิรนามนับร้อยศพถูกลำเลียงมากระจายฝังไว้ตามวัดต่างๆในพื้นที่ อ.แกลง เมืองระยอง รวม 169 ศพ ระบุรับคำสั่งตรงจากรอง ผบ.ตร. “พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์” และ รมช.คมนาคม “พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก” ให้มาพิสูจน์ความจริง เพราะอาจจะโยงไปถึงการหายตัวไปอย่างลึกลับของ “51 แนวร่วม นปช.” จากเหตุการณ์ความไม่สงบและสลายการชุมนุมเมื่อปี 53 โดยศพถูกแยกฝังไว้ 3 วัด สั่งอายัดไว้รอขุดขึ้นมาตรวจเทียบดีเอ็นเอ ขณะที่สมาคมที่นำศพมาฝังไว้ระบุเป็นศพเหยื่อพายุเกย์ที่ จ.ชุมพร เมื่อปี 2532 นำมาฝังไว้เพื่อรอพิธีทำบุญล้างป่าช้าในปี 2555
หลังจากที่กลุ่ม นปช.เคยประกาศบนเวทีการปราศรัยหลายต่อหลายครั้ง ถึงการหายตัวไปอย่างลึกลับของแนวร่วม นปช.กว่า 51 ราย ในเหตุการณ์สลายการชุมนุมทั้งที่สี่แยกคอกวัว แยกราชประสงค์ และบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง ในสมัยรัฐบาลที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมทั้งระบุว่า ศพบางส่วนถูกนำไปฝังไว้ในพื้นที่ จ.ระยองนั้น ล่าสุดมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวแล้ว โดยเมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 18 ส.ค. พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช. สำนักงานกฎหมายและคดี (กมค.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชยุต มารยาทตร์ ผกก. กลุ่มงานคดีแพ่ง กองคดีปกครองและคดีแพ่ง สตช. พ.ต.ท.นาวิน ธีรวิทย์ รอง ผกก.สส.สภ.บ้านกร่ำ อ.แกลง จ.ระยอง นายบัญญัติ เศียรเขียว ปลัดป้องกันอำเภอแกลง และนายระพินทร์ พรานนท์สถิต แกนนำคนเสื้อแดงจังหวัดระยอง พร้อมแนวร่วมกลุ่ม นปช.กว่า 50 คน เดินทางไปที่วัดคลองตากวา หมู่ 1 ต.ชากพง อ.แกลง จ.ระยอง ซึ่งเป็น 1 ใน 3 วัดที่มีข่าวว่าใช้เป็นที่ฝังศพนิรนามนับร้อยศพ
ทั้งนี้ พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.กมค. ได้สอบถามรายละเอียดจากพระอธิการวิรัตน์ อติวีโร เจ้าอาวาส ยืนยันว่ามีศพนิรนามถูกนำมาฝังไว้จริง โดยเมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่จากสมาคมพุทธศาสตร์สงเคราะห์อำเภอแกลง จ.ระยอง มาติดต่อแจ้งความประสงค์ว่าจะนำศพไร้ญาติที่เสียชีวิตจากพายุเกย์พัดถล่มเมื่อวันที่ 4 พ.ย. 2532 ในพื้นที่ จ.ชุมพรมาฝังไว้ชั่วคราว เนื่องจากได้รับการประสานจากสมาคมพุทธประทีป จ.ชุมพร ซึ่งเก็บศพไร้ญาติไว้นานแล้ว ให้นำมาฝังไว้ที่ อ.แกลง จ.ระยอง ชั่วคราว เนื่องจากสถานที่เก็บศพของมูลนิธิฯใน จ.ชุมพร มีไม่เพียงพอ ทางสมาคมพุทธศาสตร์ฯจึงอำนวยความสะดวกใช้รถพ่วง 18 ล้อบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ไปลำเลียงศพไร้ญาติ ที่ปัจจุบันเหลือแต่โครงกระดูกบรรจุใส่โลงนำมาฝากไว้ตามวัดต่างๆในพื้นที่ อ.แกลง จ.ระยอง เพื่อรอพิธีทำบุญล้างป่าช้าใหญ่ในปี 2555 สำหรับวัดคลองตากวารับฝากไว้ 72 ศพ โดยใช้รถแบ็กโฮขุดหลุมฝังไว้รวมกันริมถนนหน้าวัด
จากนั้นคณะของ พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.กมค. เดินทางไปตรวจสอบหลุมฝังศพไร้ญาติตามที่ระบุไว้ พบว่าเป็นพื้นที่ป่าโปร่ง ลักษณะหลุมถูกขุดลึกประมาณ 2 เมตร ยาวประมาณ 500 เมตร ก่อนจะนำโลงบรรจุกระดูกทั้ง 72 ศพ ลงไปฝังเรียงกันไว้เป็นแถวยาวหน้ากระดาน จึงสั่งอายัดศพทั้งหมดและปิดกั้นพื้นที่ห้ามบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในจุดที่มีการฝังศพดังกล่าว
พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.กมค. เผยถึงที่มาของการบุกอายัดศพไร้ญาติครั้งนี้ว่า ได้รับคำสั่งจาก พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รอง ผบ.ตร. และการประสานจาก พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รมช.คมนาคม ให้เข้ามาตรวจสอบในพื้นที่ อ.แกลง จ.ระยอง หลังมีกระแสข่าวว่าอาจจะมีศพแนวร่วม นปช.บางส่วนถูกนำมาฝังไว้ จึงเดินทางมาตรวจสอบข้อเท็จจริง เบื้องต้นได้สั่งอายัดศพทั้งหมดไว้ก่อน โดยในวันที่ 19 ส.ค. จะขุดศพทั้งหมดขึ้นมาตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอ เปรียบเทียบกับญาติของแนวร่วม นปช.ที่สูญหายไป ขณะเดียวกันก็จะไปตรวจสอบอีก 4 วัดในพื้นที่ อ.แกลง ซึ่งรายงานข่าวระบุว่าใช้เป็นที่ฝังศพไร้ญาติอีกกว่า 200 ศพ ตั้งแต่เดือน ส.ค.53 ด้วย โดยจะอายัดและขุดศพขึ้นมาตรวจสอบทั้งหมด เพื่อที่ทุกอย่างจะได้กระจ่างชัดเจน
จากนั้นคณะของ พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.กมค. ได้เดินทางเข้าไปตรวจสอบอีก 2 วัด ประกอบด้วย วัดห้วยยาง หมู่ 3 ต.ห้วยยาง อ.แกลง โดยมีพระครูสังฆรักษ์ วุฑฒิสาโร เจ้าอาวาส พาไปตรวจดูหลุมศพไร้ญาติที่ถูกนำมาฝังไว้จำนวน 65 ศพ พร้อมยืนยันตรงกับเจ้าอาวาสวัดคลองตากวาระบุว่ามีเจ้าหน้าที่ของสมาคมพุทธศาสตร์ฯนำมาฝากเอาไว้ และอีกจุดที่วัดสมอโพรง หมู่ 1 ต.ชากพง อ.แกลง จ.ระยอง มีพระครูกิตติโสภณพิพัฒน์ เป็นเจ้าอาวาส ระบุว่ามีการนำศพไร้ญาติมาฝังไว้อีก 32 ศพ รวมเป็นศพไร้ญาติทั้งหมด 169 ศพ จึงสั่งอายัดไว้ทั้งหมดเพื่อรอการตรวจสอบอย่างเป็นทางการในวันที่ 19 ส.ค.
หลังตรวจสอบครบหมดทั้ง 3 วัดแล้ว พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.กมค.ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.นาวิน ธีรวิทย์ รอง ผกก.สส.สภ.บ้านกร่ำ สอบปากคำเจ้าอาวาสวัดทั้ง 3 แห่งไว้เป็นหลักฐาน และให้ติดตามตัวเจ้าหน้าที่ของสมาคมพุทธศาสตร์ฯที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำทั้งหมดในวันที่ 19 ส.ค. พร้อมๆกับการขุดศพที่ฝังไว้มาตรวจเก็บหลักฐานไปตรวจเทียบดีเอ็นเอกับญาติแนวร่วม นปช.ที่หายตัวไปกว่า 50 ราย
ด้านนายวิเชียร แสงวงศ์กิจ รองนายกสมาคมพุทธศาสตร์สงเคราะห์ อ.แกลง เผยว่า ได้รับการประสานมาจากสมาคมพุทธประทีปจังหวัดชุมพร ให้ช่วยขนย้ายศพไร้ญาติที่เสียชีวิตจากฤทธิ์พายุเกย์พัดถล่มเมื่อวันที่ 4 พ.ย.2532 ซึ่งทางสมาคมพุทธประทีปฯเก็บรักษาไว้ นำมาฝังไว้ที่สุสานเขาดิน ต.ทุ่งควายกิน อ.แกลง จ.ระยอง แต่เมื่อมาถึงก็พบว่าทางสุสานอยู่ระหว่างการปรับปรุงพื้นที่ ทำให้ไม่มีสถานที่เพียงพอที่จะรับศพไร้ญาติทั้ง 169 ศพไว้ได้ จึงต้องกระจายไปฝังไว้ตามวัดต่างๆในพื้นที่เป็นการชั่วคราว ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าศพทั้งหมดเสียชีวิตจากพายุเกย์ ศพเหลือแต่โครงกระดูก มีผ้าขาวห่อไว้ก่อนบรรจุใส่โลง ไม่ใช่ศพแนวร่วม นปช.ที่หายไปอย่างแน่นอน
ต่อมาเมื่อช่วงเย็นวันเดียวกัน พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตรวจพบศพปริศนา 169 ศพ ที่ จ.ระยอง ว่า พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.กมค. และ พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผบช.ภ.2 ได้ร่วมกันตรวจสอบศพที่ถูกฝังไว้ที่วัด 3 แห่ง ในพื้นที่ จ.ระยอง เนื่องจากมีข้อมูลพบศพจำนวนมาก ไม่รู้ว่าจะเกี่ยวข้องคดีใดหรือไม่ เบื้องต้นพบศพในวัด 3 แห่ง ในพื้นที่ อ.แกลง จ.ระยอง รวม 169 ศพ สอบถามเจ้าอาวาสทั้ง 3 วัด บอกตรงกันว่าศพที่ฝังเป็นศพผู้เสียชีวิตที่มีเจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทธศาสตร์ฯนำมาฝากไว้ที่วัด โดยอ้างว่านำมาจากจังหวัดชุมพร จะฝากศพไว้ 2 ปี แล้วจะรับศพไปประกอบพิธีบำเพ็ญกุศล ขณะนี้ได้มีคำสั่งอายัดศพทั้งหมดไว้เพื่อให้ สพฐ.ตร.ตรวจเปรียบเทียบหาดีเอ็นเอว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องคดีใดหรือไม่
ทั้งนี้ จากรายงานของศูนย์ข้อมูลคนหายเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ มูลนิธิกระจกเงา เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. ที่ผ่านมาระบุว่า นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบและสลายการชุมนุมตั้งแต่วันที่ 19 พ.ค.53-7 มิ.ย.53 มีกลุ่มแนวร่วม นปช.หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยรวม 51 ราย เป็นชาย 48 ราย และหญิงอีก 3 ราย ซึ่งแกนนำนปช.ได้เคยออกมาป่าวประกาศเรียกร้องให้รัฐบาลที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ติดตามค้นหามาตลอด แต่ไม่มีความคืบหน้า กระทั่งเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย ที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี จึงมีการเร่งรัดให้พิสูจน์ข้อเท็จจริงดังกล่าว
“พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์” ผบช.กมค.เดินหน้าลุยพิสูจน์ความจริง กรณีศพนิรนามนับร้อยศพถูกลำเลียงมากระจายฝังไว้ตามวัดต่างๆในพื้นที่ อ.แกลง เมืองระยอง รวม 169 ศพ ระบุรับคำสั่งตรงจากรอง ผบ.ตร. “พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์” และ รมช.คมนาคม “พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก” ให้มาพิสูจน์ความจริง เพราะอาจจะโยงไปถึงการหายตัวไปอย่างลึกลับของ “51 แนวร่วม นปช.” จากเหตุการณ์ความไม่สงบและสลายการชุมนุมเมื่อปี 53 โดยศพถูกแยกฝังไว้ 3 วัด สั่งอายัดไว้รอขุดขึ้นมาตรวจเทียบดีเอ็นเอ ขณะที่สมาคมที่นำศพมาฝังไว้ระบุเป็นศพเหยื่อพายุเกย์ที่ จ.ชุมพร เมื่อปี 2532 นำมาฝังไว้เพื่อรอพิธีทำบุญล้างป่าช้าในปี 2555
หลังจากที่กลุ่ม นปช.เคยประกาศบนเวทีการปราศรัยหลายต่อหลายครั้ง ถึงการหายตัวไปอย่างลึกลับของแนวร่วม นปช.กว่า 51 ราย ในเหตุการณ์สลายการชุมนุมทั้งที่สี่แยกคอกวัว แยกราชประสงค์ และบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง ในสมัยรัฐบาลที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมทั้งระบุว่า ศพบางส่วนถูกนำไปฝังไว้ในพื้นที่ จ.ระยองนั้น ล่าสุดมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวแล้ว โดยเมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 18 ส.ค. พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช. สำนักงานกฎหมายและคดี (กมค.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชยุต มารยาทตร์ ผกก. กลุ่มงานคดีแพ่ง กองคดีปกครองและคดีแพ่ง สตช. พ.ต.ท.นาวิน ธีรวิทย์ รอง ผกก.สส.สภ.บ้านกร่ำ อ.แกลง จ.ระยอง นายบัญญัติ เศียรเขียว ปลัดป้องกันอำเภอแกลง และนายระพินทร์ พรานนท์สถิต แกนนำคนเสื้อแดงจังหวัดระยอง พร้อมแนวร่วมกลุ่ม นปช.กว่า 50 คน เดินทางไปที่วัดคลองตากวา หมู่ 1 ต.ชากพง อ.แกลง จ.ระยอง ซึ่งเป็น 1 ใน 3 วัดที่มีข่าวว่าใช้เป็นที่ฝังศพนิรนามนับร้อยศพ
ทั้งนี้ พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.กมค. ได้สอบถามรายละเอียดจากพระอธิการวิรัตน์ อติวีโร เจ้าอาวาส ยืนยันว่ามีศพนิรนามถูกนำมาฝังไว้จริง โดยเมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่จากสมาคมพุทธศาสตร์สงเคราะห์อำเภอแกลง จ.ระยอง มาติดต่อแจ้งความประสงค์ว่าจะนำศพไร้ญาติที่เสียชีวิตจากพายุเกย์พัดถล่มเมื่อวันที่ 4 พ.ย. 2532 ในพื้นที่ จ.ชุมพรมาฝังไว้ชั่วคราว เนื่องจากได้รับการประสานจากสมาคมพุทธประทีป จ.ชุมพร ซึ่งเก็บศพไร้ญาติไว้นานแล้ว ให้นำมาฝังไว้ที่ อ.แกลง จ.ระยอง ชั่วคราว เนื่องจากสถานที่เก็บศพของมูลนิธิฯใน จ.ชุมพร มีไม่เพียงพอ ทางสมาคมพุทธศาสตร์ฯจึงอำนวยความสะดวกใช้รถพ่วง 18 ล้อบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ไปลำเลียงศพไร้ญาติ ที่ปัจจุบันเหลือแต่โครงกระดูกบรรจุใส่โลงนำมาฝากไว้ตามวัดต่างๆในพื้นที่ อ.แกลง จ.ระยอง เพื่อรอพิธีทำบุญล้างป่าช้าใหญ่ในปี 2555 สำหรับวัดคลองตากวารับฝากไว้ 72 ศพ โดยใช้รถแบ็กโฮขุดหลุมฝังไว้รวมกันริมถนนหน้าวัด
จากนั้นคณะของ พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.กมค. เดินทางไปตรวจสอบหลุมฝังศพไร้ญาติตามที่ระบุไว้ พบว่าเป็นพื้นที่ป่าโปร่ง ลักษณะหลุมถูกขุดลึกประมาณ 2 เมตร ยาวประมาณ 500 เมตร ก่อนจะนำโลงบรรจุกระดูกทั้ง 72 ศพ ลงไปฝังเรียงกันไว้เป็นแถวยาวหน้ากระดาน จึงสั่งอายัดศพทั้งหมดและปิดกั้นพื้นที่ห้ามบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในจุดที่มีการฝังศพดังกล่าว
พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.กมค. เผยถึงที่มาของการบุกอายัดศพไร้ญาติครั้งนี้ว่า ได้รับคำสั่งจาก พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รอง ผบ.ตร. และการประสานจาก พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รมช.คมนาคม ให้เข้ามาตรวจสอบในพื้นที่ อ.แกลง จ.ระยอง หลังมีกระแสข่าวว่าอาจจะมีศพแนวร่วม นปช.บางส่วนถูกนำมาฝังไว้ จึงเดินทางมาตรวจสอบข้อเท็จจริง เบื้องต้นได้สั่งอายัดศพทั้งหมดไว้ก่อน โดยในวันที่ 19 ส.ค. จะขุดศพทั้งหมดขึ้นมาตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอ เปรียบเทียบกับญาติของแนวร่วม นปช.ที่สูญหายไป ขณะเดียวกันก็จะไปตรวจสอบอีก 4 วัดในพื้นที่ อ.แกลง ซึ่งรายงานข่าวระบุว่าใช้เป็นที่ฝังศพไร้ญาติอีกกว่า 200 ศพ ตั้งแต่เดือน ส.ค.53 ด้วย โดยจะอายัดและขุดศพขึ้นมาตรวจสอบทั้งหมด เพื่อที่ทุกอย่างจะได้กระจ่างชัดเจน
จากนั้นคณะของ พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.กมค. ได้เดินทางเข้าไปตรวจสอบอีก 2 วัด ประกอบด้วย วัดห้วยยาง หมู่ 3 ต.ห้วยยาง อ.แกลง โดยมีพระครูสังฆรักษ์ วุฑฒิสาโร เจ้าอาวาส พาไปตรวจดูหลุมศพไร้ญาติที่ถูกนำมาฝังไว้จำนวน 65 ศพ พร้อมยืนยันตรงกับเจ้าอาวาสวัดคลองตากวาระบุว่ามีเจ้าหน้าที่ของสมาคมพุทธศาสตร์ฯนำมาฝากเอาไว้ และอีกจุดที่วัดสมอโพรง หมู่ 1 ต.ชากพง อ.แกลง จ.ระยอง มีพระครูกิตติโสภณพิพัฒน์ เป็นเจ้าอาวาส ระบุว่ามีการนำศพไร้ญาติมาฝังไว้อีก 32 ศพ รวมเป็นศพไร้ญาติทั้งหมด 169 ศพ จึงสั่งอายัดไว้ทั้งหมดเพื่อรอการตรวจสอบอย่างเป็นทางการในวันที่ 19 ส.ค.
หลังตรวจสอบครบหมดทั้ง 3 วัดแล้ว พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.กมค.ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.นาวิน ธีรวิทย์ รอง ผกก.สส.สภ.บ้านกร่ำ สอบปากคำเจ้าอาวาสวัดทั้ง 3 แห่งไว้เป็นหลักฐาน และให้ติดตามตัวเจ้าหน้าที่ของสมาคมพุทธศาสตร์ฯที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำทั้งหมดในวันที่ 19 ส.ค. พร้อมๆกับการขุดศพที่ฝังไว้มาตรวจเก็บหลักฐานไปตรวจเทียบดีเอ็นเอกับญาติแนวร่วม นปช.ที่หายตัวไปกว่า 50 ราย
ด้านนายวิเชียร แสงวงศ์กิจ รองนายกสมาคมพุทธศาสตร์สงเคราะห์ อ.แกลง เผยว่า ได้รับการประสานมาจากสมาคมพุทธประทีปจังหวัดชุมพร ให้ช่วยขนย้ายศพไร้ญาติที่เสียชีวิตจากฤทธิ์พายุเกย์พัดถล่มเมื่อวันที่ 4 พ.ย.2532 ซึ่งทางสมาคมพุทธประทีปฯเก็บรักษาไว้ นำมาฝังไว้ที่สุสานเขาดิน ต.ทุ่งควายกิน อ.แกลง จ.ระยอง แต่เมื่อมาถึงก็พบว่าทางสุสานอยู่ระหว่างการปรับปรุงพื้นที่ ทำให้ไม่มีสถานที่เพียงพอที่จะรับศพไร้ญาติทั้ง 169 ศพไว้ได้ จึงต้องกระจายไปฝังไว้ตามวัดต่างๆในพื้นที่เป็นการชั่วคราว ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าศพทั้งหมดเสียชีวิตจากพายุเกย์ ศพเหลือแต่โครงกระดูก มีผ้าขาวห่อไว้ก่อนบรรจุใส่โลง ไม่ใช่ศพแนวร่วม นปช.ที่หายไปอย่างแน่นอน
ต่อมาเมื่อช่วงเย็นวันเดียวกัน พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตรวจพบศพปริศนา 169 ศพ ที่ จ.ระยอง ว่า พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.กมค. และ พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผบช.ภ.2 ได้ร่วมกันตรวจสอบศพที่ถูกฝังไว้ที่วัด 3 แห่ง ในพื้นที่ จ.ระยอง เนื่องจากมีข้อมูลพบศพจำนวนมาก ไม่รู้ว่าจะเกี่ยวข้องคดีใดหรือไม่ เบื้องต้นพบศพในวัด 3 แห่ง ในพื้นที่ อ.แกลง จ.ระยอง รวม 169 ศพ สอบถามเจ้าอาวาสทั้ง 3 วัด บอกตรงกันว่าศพที่ฝังเป็นศพผู้เสียชีวิตที่มีเจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทธศาสตร์ฯนำมาฝากไว้ที่วัด โดยอ้างว่านำมาจากจังหวัดชุมพร จะฝากศพไว้ 2 ปี แล้วจะรับศพไปประกอบพิธีบำเพ็ญกุศล ขณะนี้ได้มีคำสั่งอายัดศพทั้งหมดไว้เพื่อให้ สพฐ.ตร.ตรวจเปรียบเทียบหาดีเอ็นเอว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องคดีใดหรือไม่
ทั้งนี้ จากรายงานของศูนย์ข้อมูลคนหายเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ มูลนิธิกระจกเงา เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. ที่ผ่านมาระบุว่า นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบและสลายการชุมนุมตั้งแต่วันที่ 19 พ.ค.53-7 มิ.ย.53 มีกลุ่มแนวร่วม นปช.หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยรวม 51 ราย เป็นชาย 48 ราย และหญิงอีก 3 ราย ซึ่งแกนนำนปช.ได้เคยออกมาป่าวประกาศเรียกร้องให้รัฐบาลที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ติดตามค้นหามาตลอด แต่ไม่มีความคืบหน้า กระทั่งเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย ที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี จึงมีการเร่งรัดให้พิสูจน์ข้อเท็จจริงดังกล่าว
วันอาทิตย์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2554
ข่าวสารวันที่15 สิงหาคม 2554
นายชลิต ดำรงศักดิ์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า แนวทางการพร่องน้ำจากทางเหนือของแม่น้ำเจ้าพระยา โดยจะจัดการจราจรน้ำออกทางฝั่งซ้ายและขวา โดยวันที่ 21-23 ส.ค.นี้ น้ำทะเล จะอยู่ในระดับต่ำมาก จึงต้องเร่งระบายน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ออกไปให้ได้มากที่สุด จะทำให้ผลกระทบน้ำจะมีน้อยลง แต่อย่างไรก็ตาม ก็ต้องให้ระวังพื้นที่ราบต่ำ และพื้นที่ริมตลิ่ง จะต้องโดนผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทางกรมชลฯ จึงออกประกาศเตือนไปแล้ว เช่น บางบาล โผงเผง ส่วนวิธีการบริหารจัดการน้ำนั้น โดยใช้หลัก คลองส่งน้ำที่มีกระจายตามพื้นที่ต่าง ๆ โดยจะต้องไม่มีผลกระทบกับชาวบ้านด้วย หรือ ช่วงที่ระบายน้ำลงทะเลได้เร็ว ก็จะเร่งทันทีเช่นกัน
ส่วนที่ จ.สุโขทัย ในการแก้ปัญหาน้ำท่วมยั่งยืน ต้องศึกษากันอีกครั้ง แต่โดยศักยภาพของแม่น้ำยมนั้น มีน้ำปริมาณมาก แต่เมื่อผ่านมา จ.สุโขทัย ทางน้ำแคบมาก จึงเกิดปัญหาขึ้น ส่วนการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น อีกครั้งนั้น คงต้องมาพูดจากันโดยละเอียดอีกครั้ง ส่วนลำน้ำอื่นนั้น ไม่มีปัญหา เพราะมีเครื่องมือที่เป็นตัวช่วยค่อนข้างมาก เหลือแค่ล้ำน้ำยม ที่ถือว่าเป็นปัญหาอยู่
ส่วนที่ จ.สุโขทัย ในการแก้ปัญหาน้ำท่วมยั่งยืน ต้องศึกษากันอีกครั้ง แต่โดยศักยภาพของแม่น้ำยมนั้น มีน้ำปริมาณมาก แต่เมื่อผ่านมา จ.สุโขทัย ทางน้ำแคบมาก จึงเกิดปัญหาขึ้น ส่วนการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น อีกครั้งนั้น คงต้องมาพูดจากันโดยละเอียดอีกครั้ง ส่วนลำน้ำอื่นนั้น ไม่มีปัญหา เพราะมีเครื่องมือที่เป็นตัวช่วยค่อนข้างมาก เหลือแค่ล้ำน้ำยม ที่ถือว่าเป็นปัญหาอยู่
วันอังคารที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2554
ข่าสารวันนี้
แม่วัย 58 ปี ชาวขอนแก่น ใช้อาวุธปืนยิงลูกสาววัย 37 ปี บาดเจ็บสาหัส หลังสั่งห้ามคุยกับผู้ชายที่มาติดพัน แต่ลูกสาวไม่เชื่อ
(10 ส.ค.) ตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น เข้าตรวจสอบร้านขายก๋วยเตี๋ยวเป็ดเยาวราช ภายในสถานีขนส่งเทศบาลนครขอนแก่น หลังเกิดเหตุนางทัศนีย์ เต็งเจริญกุล อายุ 58 ปี ใช้อาวุธปืนขนาด .38 ยิง น.ส.สุนันท์ เศษแสงโยธิน ลูกสาว บาดเจ็บสาหัส ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลขอนแก่น ล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว ตำรวจจึงควบคุมตัวนางทัศนีย์ไปสอบสวนดำเนินคดี
จากการสอบสวนทราบว่า นางทัศนีย์ใช้อาวุธปืนไล่ยิง น.ส.สุนันท์ อย่างบ้าคลั่ง นอกจากนี้ กระสุนปืนยังไปถูกรถโดยสารประจำทางสายนครราชสีมา-ขอนแก่น เสียหาย ส่วนสาเหตุเกิดจากนางทัศนีย์ไม่พอใจลูกสาวมีชายหนุ่มมาติดพัน และพยายามสั่งห้ามแต่ลูกสาวไม่เชื่อฟัง จึงใช้อาวุธปืนไล่ยิงดังกล่าว. - สำนักข่าวไทย
(10 ส.ค.) ตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น เข้าตรวจสอบร้านขายก๋วยเตี๋ยวเป็ดเยาวราช ภายในสถานีขนส่งเทศบาลนครขอนแก่น หลังเกิดเหตุนางทัศนีย์ เต็งเจริญกุล อายุ 58 ปี ใช้อาวุธปืนขนาด .38 ยิง น.ส.สุนันท์ เศษแสงโยธิน ลูกสาว บาดเจ็บสาหัส ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลขอนแก่น ล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว ตำรวจจึงควบคุมตัวนางทัศนีย์ไปสอบสวนดำเนินคดี
จากการสอบสวนทราบว่า นางทัศนีย์ใช้อาวุธปืนไล่ยิง น.ส.สุนันท์ อย่างบ้าคลั่ง นอกจากนี้ กระสุนปืนยังไปถูกรถโดยสารประจำทางสายนครราชสีมา-ขอนแก่น เสียหาย ส่วนสาเหตุเกิดจากนางทัศนีย์ไม่พอใจลูกสาวมีชายหนุ่มมาติดพัน และพยายามสั่งห้ามแต่ลูกสาวไม่เชื่อฟัง จึงใช้อาวุธปืนไล่ยิงดังกล่าว. - สำนักข่าวไทย
วันจันทร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2554
ข่าวสาร
ประวัติการทำงาน
มีนาคม 2549 : ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในประเทศไทยและได้รับการจัดอันดับจากคณะกรรมการบรรษัทภิบาล ของตลาดหลักทรัพย์ ให้อยู่ในกลุ่ม”ดีเลิศ” ของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ภาพลักษณ์และสินค้า
ประสบความสำเร็จในการ Re-Branding จากภาพลักษณ์บริษัทเทเลคอม เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างชัดเจน รวมทั้งปรับรูปแบบสินค้าและบริการของบริษัทให้ตรงต่อ ความต้องการของลูกค้าซึ่งสามารถทำให้ผลประกอบการของบริษัทเพิ่มขึ้นถึง 30% อย่างต่อเนื่องทุกปี ประสบความสำเร็จในการสร้างวัฒนธรรมองค์กร ส่งเสริมให้พนักงานมีพฤติกรรมที่สอดคล้องกับค่านิยม และนำค่านิยมสู่การปฏิบัติงานทุกจุดบริการ การบริหารจัดการ
ปรับโครงสร้างองค์กรให้มีความเหมาะสมต่อการดำเนินธุรกิจ เกิดความคล่องตัวในการบริหารจัดการ เปิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุดต่อบริษัท
ปรับปรุงและพัฒนากระบวนการปฏิบัติงานให้สอดคล้องกับการเติบโตของธุรกิจ เช่น ระบบ SC System (กระบวนการก่อสร้างและต้นทุนการก่อสร้าง) กระบวนการ CRM และกระบวนการบริการ
ประสบการณอื่นๆ : มีประสบการณ์ในธุรกิจบริหารทรัพย์สิน และธุรกิจกอล์ฟ
2545 : ประธานกรรมการ บริษัท แอ็ดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)
2544 : กรรมการผู้อำนวยการอาวุโส-สายงานการวางแผนธุรกิจโทรคมนาคมไร้สาย บริษัท แอ็ดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)
2542 : กรรมการผู้อำนวยการ – สายงานปฏิบัติการ สินค้าและบริการ บริษัท แอ็ดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)
วันแม่แห่งชาติ
ประวัติวันแม่ แต่เดิมนั้น วันแม่ของชาติได้กำหนดเอาไว้วันที่ 15 เมษายนของทุก ๆ ปี
ทั้งนี้เป็นไปตามมติของคณะรัฐมนตรีประกาศรับรอง เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2493
ซึ่งได้พิจารณาเห็นว่าการจัดงานวันแม่ของสำนักวัฒนธรรมฝ่ายหญิง
สภาวัฒนธรรมแห่งชาติผู้รับมอบหมายให้จัดงาน วันแม่ มาตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน พ.ศ.2493
เป็นครั้งแรกเป็นต้นมานั้นได้รับความสำเร็จด้วยดี ด้วยประชาชนให้การสนับสนุน
จนสามารถขยายขอบข่ายของงานให้กว้างขวางออกไป
มีการจัดพิธีกรรมทางพระพุทธศาสนา การประกวดคำขวัญวันแม่
การประกวดแม่ของชาติ เพื่อให้เกียรติและตระหนักในความ สำคัญของแม่
และเพื่อเพิ่มความสำคัญของวันแม่ให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป ด้วยเหตุนี้งานวันแม่
จึงเป็นวันแม่ประจำปีของชาติตามประกาศของรัฐบาลฯพณฯ จอมพล
ป.พิบูลสงคราม แต่โดยทั่วไปเรียกกันว่าวัน แม่ของชาติ
ต่อมาถึง พ.ศ.2519 ทางราชการได้เปลี่ยนใหม่ให้ถือเอา
วันเสด็จพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ คือ
วันที่ 12 สิงหาคม เป็นวันแม่แห่งชาติ เริ่มในปี พ.ศ.2519 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน
กิจกรรมต่าง ๆ ที่ควรปฏิบัติในวันแม่แห่งชาติ 1. ประดับธงชาติตามอาคารบ้านเรือน
2. จัดกิจกรรมต่างๆ เกี่ยวกับวันแม่ เช่น การจัดนิทรรศการ
3. จัดกิจกรรมเกี่ยวกับการบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ ทำบุญใส่บาตรอุทิศส่วนกุศล เพื่อรำลึกถึงพระคุณของแม่
4. นำพวงมาลัยดอกมะลิไปกราบขอพรจากแม่
การจัดงานวันแม่แห่งชาติในประเทศไทยงานวันแม่จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2486 ณ.สวนอัมพร โดยกระทรวงสาธารณสุข แต่ช่วงนั้นเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 งานวันแม่ในปีต่อมาจึงต้องงดไป เมื่อวิกฤติสงครามสงบลง หลายหน่วยงานได้พยายามให้มีวันแม่ขึ้นมาอีก แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร และมีการเปลี่ยนกำหนดวันแม่ไปหลายครั้ง ต่อมาวันแม่ที่รัฐบาลรับรอง คือวันที่ 15 เมษายน โดยเริ่มจัดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2493 แต่ก็ต้องหยุดลงอีกในหลายปีต่อมา เนื่องจากกระทรวงวัฒนธรรมถูกยุบไป ส่งผลให้สภาวัฒนธรรมแห่งชาติซึ่งรับหน้าที่จัดงานวันแม่ขาดผู้สนับสนุน
ต่อมาสมาคมครูคาทอลิกแห่งประเทศไทย ได้จัดงานวันแม่ขึ้นอีกครั้ง ในวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2515 แต่จัดได้เพียงปีเดียวเท่านั้น จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2519 คณะกรรมการอำนวยการสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จึงได้กำหนดวันแม่ขึ้นใหม่ให้เป็นวันที่แน่นอน โดยถือเอาวันเสด็จพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ วันที่ 12 สิงหาคมเป็นวันแม่แห่งชาติ
ต่อมาสมาคมครูคาทอลิกแห่งประเทศไทย ได้จัดงานวันแม่ขึ้นอีกครั้ง ในวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2515 แต่จัดได้เพียงปีเดียวเท่านั้น จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2519 คณะกรรมการอำนวยการสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จึงได้กำหนดวันแม่ขึ้นใหม่ให้เป็นวันที่แน่นอน โดยถือเอาวันเสด็จพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ วันที่ 12 สิงหาคมเป็นวันแม่แห่งชาติ
สัญลักษณ์ที่ใช้ในวันแม่ สัญลักษณ์ที่ใช้ในวันแม่คือ ดอกมะลิ ซึ่งมีสีขาวบริสุทธิ์ ส่งกลิ่นหอมไปไกลและหอมได้นาน อีกทั้งยังออกดอกได้ตลอดทั้งปี เปรียบได้กับความรักอันบริสุทธิ์ของแม่ที่มีต่อลูกไม่มีวันเสื่อมคลาย
คำขวัญวันเเม่ ประจำปี พ.ศ.2553"แผ่นดินนี้ แม่ของลูก ใช้ปลูกข้าว กี่แสนก้าว ที่เดินซ้ำ ย่ำหว่านไถ บำรุงดิน จนอุดม สมดังใจ หวังนาไทย เป็นของไทย ไปนิรันดร์"
เพลงที่ใช้ในวันเเม่ค่าน้ำนม คือ เพลงอย่างเป็นทางการที่ใช้ในงานวันเเม่เเห่งชาติ เเต่งขึ้นโดย อาจารย์ สมยศ ทัศนพันธ์ ได้เรียบเรียงบทเพลงที่เรียกได้ว่า ขึ้นหิ้งอมตะ และเป็นงานเพลงชิ้นเอก ซึ่งได้ฟังเมื่อไร เป็นต้องหวนระลึกถึงบุญคุณของเเม่เเละวันคืนเก่าๆ ของวิถีไทยในสมัยก่อน
เนื้อเพลง นอกจากจะให้เราระลึกถึงพระคุณเเม่เเล้วยังทำให้เรามองเห็นขนบดั้งเดิมตามวิถีไทย หลายอย่างจากเนื้อเพลง เช่นการศึกษาของผู้ชายไทยสมัยก่อนนั้น มักจะอยู่ในวัดวาอาราม ซึ่งเป็นแหล่งสอนสั่งความรู้ ทางโลก อ่านออกเขียนได้ และ ทางธรรม อันได้แก่ การถือศีล และยิดมั่นในพระรัตนไตร นอกจากนั้น ยังมีความเชื่อกันอีกว่า หากลูกชายบ้านใหน ได้บวชเรียน ก็จะส่งแผ่ อานิสงค์ไปให้กับพ่อแม่ ได้เกาะชายผ้าเหลืองไปสู่ที่ดีๆ เมื่อถึงกาลแตกดับ
ท่วงทำนองเสนาะโสต และ ทุ่มเย็น กับคำร้องที่ตรงไป ตรงมา ชวนให้นึกภาพตามได้ไม่ยาก แม้แต่เด็กเล็กๆ จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่ใครฟังเพลงนี้แล้วจะต้องหลั่งน้ำตาให้กับความซาบซึ้งแห่งรักที่แม่ มีให้เรา...
เพลง ค่าน้ำนม
แม่นี้มีบุญคุณอันใหญ่หลวง ที่เฝ้าหวงห่วงลูกแต่หลังเมื่อยังนอนเปล แม่เราเฝ้าโอละเห่ กล่อมลูกน้อยนอนเปลไม่ห่างหันเหไปจนไกล
แต่เล็กจนโตโอ้แม่ถนอม แม่ผ่ายผอมย่อมเกิดแต่รักลูกปักดวงใจ เติบโตโอ้เล็กจนใหญ่ นี่แหละหนาอะไรมิใช่ใดหนาเพราะค่าน้ำนม
ควรคิดพินิจให้ดี ค่าน้ำนมแม่นี้จะมีอะไรเหมาะสม โอ้ว่าแม่จ๋าลูกคิดถึงค่าน้ำนม เลือดในอกผสมกลั่นเป็นน้ำนมให้ลูกดื่มกิน
ค่าน้ำนมควรชวนให้ลูกฝัง แต่เมื่อหลังเปรียบดังผืนฟ้าหนักกว่าแผ่นดิน บวชเรียนพากเพียรจนสิ้น หยดหนึ่งน้ำนมกินทดแทนไม่สิ้นพระคุณแม่เอย
( ซ้ำ *, ** )
เนื้อเพลง นอกจากจะให้เราระลึกถึงพระคุณเเม่เเล้วยังทำให้เรามองเห็นขนบดั้งเดิมตามวิถีไทย หลายอย่างจากเนื้อเพลง เช่นการศึกษาของผู้ชายไทยสมัยก่อนนั้น มักจะอยู่ในวัดวาอาราม ซึ่งเป็นแหล่งสอนสั่งความรู้ ทางโลก อ่านออกเขียนได้ และ ทางธรรม อันได้แก่ การถือศีล และยิดมั่นในพระรัตนไตร นอกจากนั้น ยังมีความเชื่อกันอีกว่า หากลูกชายบ้านใหน ได้บวชเรียน ก็จะส่งแผ่ อานิสงค์ไปให้กับพ่อแม่ ได้เกาะชายผ้าเหลืองไปสู่ที่ดีๆ เมื่อถึงกาลแตกดับ
ท่วงทำนองเสนาะโสต และ ทุ่มเย็น กับคำร้องที่ตรงไป ตรงมา ชวนให้นึกภาพตามได้ไม่ยาก แม้แต่เด็กเล็กๆ จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่ใครฟังเพลงนี้แล้วจะต้องหลั่งน้ำตาให้กับความซาบซึ้งแห่งรักที่แม่ มีให้เรา...
เพลง ค่าน้ำนม
แม่นี้มีบุญคุณอันใหญ่หลวง ที่เฝ้าหวงห่วงลูกแต่หลังเมื่อยังนอนเปล แม่เราเฝ้าโอละเห่ กล่อมลูกน้อยนอนเปลไม่ห่างหันเหไปจนไกล
แต่เล็กจนโตโอ้แม่ถนอม แม่ผ่ายผอมย่อมเกิดแต่รักลูกปักดวงใจ เติบโตโอ้เล็กจนใหญ่ นี่แหละหนาอะไรมิใช่ใดหนาเพราะค่าน้ำนม
ควรคิดพินิจให้ดี ค่าน้ำนมแม่นี้จะมีอะไรเหมาะสม โอ้ว่าแม่จ๋าลูกคิดถึงค่าน้ำนม เลือดในอกผสมกลั่นเป็นน้ำนมให้ลูกดื่มกิน
ค่าน้ำนมควรชวนให้ลูกฝัง แต่เมื่อหลังเปรียบดังผืนฟ้าหนักกว่าแผ่นดิน บวชเรียนพากเพียรจนสิ้น หยดหนึ่งน้ำนมกินทดแทนไม่สิ้นพระคุณแม่เอย
( ซ้ำ *, ** )
สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)

















