วันจันทร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2554

ข่าวสารวันที่ 06/09/2554

เม้าท์ก้นให้แซ่ด ว่านักแสดงหนุ่มฮอต มาริโอ้ เมาเร่อ กับแฟนสาว กุ๊บกิ๊บ สุมณทิพย์ นอนห้องเดียวกันในทริปที่ไปประเทศเกาหลีมาล่าสุด ซึ่งพอหนุ่มโอ้ได้ยินข่าวมากระแทกหู ก็บอกปัดทันทีว่าจะนอนกับผู้จัดการส่วนตัวตลอด เพราะต้องเป็นตัวอย่างที่ดีแก่เยาวชน พร้อมปัดแทนสาวกุ๊บกิ๊บ กรณีมีข่าวลือไปอัพสวยมาใหม่

"อ๋อไม่มีอยู่แล้วครับ เพราะว่ากุ๊บกิ๊บเค้าก็เป็นผู้หญิง เราจะมานอนห้องเดียวกันไม่ได้หรอกรับ เพราะว่าเค้าก็มีผู้จัดการไปด้วยอะไรอย่างนี้ครับ แล้วก็มีผู้ใหญ่ที่ไปงานนี้เยอะมาก (ซีเรียสไหม?)ไม่ซีเรียสครับก็เท่าที่พี่ถาม แล้วโอ้ก็บอกความจริง ไม่มีเรียสอยู่แล้ว"
"ผมไม่ชอบนะครับ ข่าวนี้โอ้ไม่เสียหรอกแต่ว่ากิ๊บเค้าจะเสีย แต่ว่าโอ้ก็บอกตรงนี้เลยครับไม่มีแน่นอน (เวลาไปต่างประเทศจะนอนแยกกันตลอด?) ไปทริปเดียวกันแต่เราก็นอนแยกกันอยู่แล้วครับ เรียกว่าเราก็ยังเป็นวัยรุ่นเป็นตัวอย่างของวัยรุ่นของน้อง ๆ เราไม่ทำอย่างนั้นอยู่แล้วครับ ส่วนใหญ่โอ้ไปต่างประเทศก็จะนอนกับผู้จัดการครับ ซี้กันครับ ไม่ต้องห่วงครับ บอกได้เลยว่าไม่มีครับ"

หนุ่มโอ้ ป้องแฟนสาวยังน่ารักเหมือนเดิม เปล่าทำศัลยกรรม "ฮะ หน้าเปลี่ยน อู๊ยยังน่ารักเหมือนเดิม ไม่เปลี่ยน (มีหลายคนทักว่าไปทำอะไรมาหรือเปล่า?) อ๋อไม่มีครับ ไม่มี เหมือนเดิม น่ารักอ่ะ

วันอาทิตย์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2554

ข่าวสารวันที่ 05/09/2554

(4 ก.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งว่า พบผู้เสียชีวิตอยู่ภายในรถ บริเวณถนนสายโรจนะ ฝั่งขาเข้าเกาะเมืองอยุธยา จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ
เมื่อถึงที่เกิดเหตุ พบรถยนต์โตโยต้า โซลูน่า สีบรอนซ์เทา จอดอยู่ข้างทาง ตรงข้ามกับที่ว่าการอำเภอพระนครศรีอยุธยา ตรวจสอบภายในรถ พบศพชาย สภาพนอนหงายราบกับเบาะด้านหลังของรถยนต์ ภายในรถพบอุปกรณ์สำหรับซ่อมแอร์อยู่ด้านเบาะหลังคนขับ ตรวจสอบร่างกายไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย ทราบชื่อในเวลาต่อมาคือ นายวีรยุทธ พูดเพราะ อายุ 19 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ จ.มุกดาหาร คาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 7 ชั่วโมง
นายณรงค์ศักดิ์ ดำนุ่น อายุ 34 ปี เจ้าของรถยนต์คันดังกล่าว ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยสีหน้าตื่นตกใจว่า ตนประกอบอาชีพเป็นช่างแอร์ เมื่อวันที่ 2 ก.ย. ที่ผ่านมา ตนกับเพื่อนช่างแอร์ได้ตั้งวงนั่งดื่มสุราด้วยกันที่บ้าน โดย นายวีรยุทธ เป็นผู้ติดตามของเพื่อน ที่เข้ามาร่วมวงด้วยจนกระทั่งถึงเช้า ต่อมาช่วงเย็นวันที่ 3 ก.ย. ตนกับเพื่อนต้องเข้ากรุงเทพฯ เพื่อไปล้างแอร์ให้ลูกค้า จึงได้ให้ผู้ตายซึ่งยังอยู่ในสภาพมึนเมา โดยสารไปด้วยที่เบาะหลัง ซึ่งตนสังเกตว่า ผู้ตายยังคงนอนหลับอยู่ตลอดทาง และเมื่อขับรถกลับถึงบ้าน ตนได้ลดกระจกลง เพื่อให้ผู้ตายได้นอนต่ออยู่ในรถ เพราะเห็นว่าผู้ตายยังคงหลับอยู่
จนกระทั่งเช้าวันนี้ (4 ก.ย.) ขณะที่ตนกับลูกน้องกำลังจะขับรถออกไปทำงานตามปกติ ก็ยังเห็นผู้ตายนอนหลับอยู่สภาพเดิม จึงจอดรถและปลุกให้ตื่น แต่ต้องตกใจเมื่อพบว่าผู้ตายนอนตัวแข็งเสียชีวิตไปแล้ว ตนจึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า ผู้ตายน่าจะเกิดอาการหัวใจวายอย่างเฉียบพลัน เนื่องจากดื่มสุราเป็นจำนวนมาก หรืออาจจะสูดดมควันหรือแก๊ส ซึ่งขณะนี้ได้ส่งศพชันสูตร เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริงแล้ว

วันเสาร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2554

ข่าวสารวันที่ 04/09/2554

พระเอกสุดฮอต ป้อง ณวัฒน์ เรื่องของหัวใจยังไม่มีใครจับจองเป็นเจ้าของแบบจริงจัง แต่พระเอกหนุ่มคนนี้ก็ไม่เคยว่างเว้นข่าวกับสาว ๆ เพราะล่าสุดมีภาพหลุดควงสาวสวยหม่ำข้าว แถมอีกวันก็ควงสาวอีกรายไปซื้อกระเป๋า ซึ่งพระเอกหนุ่มรีบชี้แจงว่าภาพควงสาวคนแรกกินข้าวเป็นเพื่อนสาวที่สนิทเท่านั้น ส่วนภาพควงสาวอีกรายซื้อกระเป๋าบอกเป็นพี่ที่รู้จักชวนไปเป็นเพื่อนเพื่อเปลี่ยนผ้าคลุมไหล่ให้แม่ในวันแม่ รับครอบครัวอยากให้แต่งงาน แต่ตนเองยังกลัวการมีชีวิตคู่ เปรยอนาคตคิดแต่งงานและอยากมีลูกเลย
มีข่าวควงสาวไปกินข้าวอีกวันควงไปซื้อกระเป๋าแต่เป็นคนละคนกัน กินข้าวก็เป็นน้อง ๆ เพื่อน ๆ ก็ไปกินธรรมดาไม่ได้มีอะไรพิเศษหรือพาแฟนไปกินแค่กินมือเดียวเอง ส่วนอีกวันที่ไปซื้อกระเป๋าเขาเป็นพี่และเป็นผู้บริหารพารากอน พอดีวันนั้นเอาของไปเปลี่ยนก็เลยให้พี่เขาช่วยพูดให้ว่าจะเปลี่ยนได้หรือเปล่าแค่นั้นเอง ซึ่งของที่เอาไปเปลี่ยนเป็นผ้าคลุมไหล่ซื้อให้แม่ในวันแม่ คือเราซื้อมาแล้วมันผิดก็จะเอาไปเปลี่ยนเฉยๆซึ่งพี่เขาก็ไปช่วยคุยให้
มีภาพกับ 2 สาวทำให้กลายเป็นหนุ่มเพลย์บอยเจ้าชู้ ไม่มีอะไรครับ อย่างที่บอกว่ามีเหตุผล อย่างไปกินข้าวก็ไปกัน 3-4คน
คนนี้คือคนที่คุยด้วยหรือเปล่า ผมก็คุยอยู่หลายคนคุยเป็นเพื่อน อย่างเราไปถ่ายละครแถวไหนเพื่อนเราอยู่ละแวกนั้นก็ชวนกินข้าวกัน
สนิทสุด ๆ มีหรือยัง ไม่มีนะครับ คุยไปเรื่อยเปื่อยตามประสา ถามว่าพร้อมจะมีแฟนหรือยังจริง ๆ ก็พร้อมมานานแล้วครับ ถ้ามีที่เขาชอบเรา เราชอบเขาก็อยากจะมีเห็นคนอื่นมีก็มีความสุขดี แต่พูดตรง ๆ ว่าไม่มีแฟนจริงจังนานมากแล้ว
ตอนนี้มีใครมาวินบ้างหรือยัง มันไม่มีใครมาวินนะ มันก็เรื่อย ๆ ครับ บางทีเราชอบเขาเขาอาจจะไม่ชอบเราก็ได้
เห็นครอบครัวอยากให้แต่งแล้ว ก็ครอบครัวคนจีนเนอะเขาก็อยากให้แต่งอยากให้มีลูก แต่พี่สาวก็แต่งไปแล้วมีลูกก็เล่นกับหลานไปก่อน รอพี่แท่ง ศักดิ์สิทธิ์ก่อนแล้วกัน แต่ถ้ามีก็ดีนะ แต่ผมก็ไม่ค่อยมั่นใจว่าถ้ามีแล้วจะดูแลผู้หญิงคนนึงไปอีก 30-40 ปี อีกหน่อยเขาอ้วนหรือไม่สวยแล้ว เราก็ต้องดูแลเขาอย่างดี ผมก็เลยต้องให้แน่ใจก่อนถ้าไม่มันใจก็อย่าเพิ่งดึงเขามาก่อน
ถ้าเปิดตัวก็แต่งงานเลย ไม่ ๆ ต้องคบเป็นแฟนก่อน ถ้ามีแฟนเดี๋ยวคงรู้
พูดเหมือนกลัวชีวิตคู่ กลัวนะ แต่พ่อแม่ผมก็อยู่กันมาปกติ ผมก็รู้สึกว่า เราไม่รู้จะทำได้หรือเปล่า ผมอยากจะอยู่ให้นานไม่อยากรัก ๆ เลิก ๆ เอาให้มันแน่นอนก่อน ก็บอกพ่ออย่าไปซีเรียสเล่นกับหลานไปก่อน
เห็นหลานแล้วอยากมีลูกไหม อยากมีนะ คือถ้าผมแต่งงานคือผมอยากมีลูก ถ้าแต่งแล้วผมไม่อยากมีลูกก็ไม่รู้จะแต่งไปทำไม อันนี้ความคิดผมนะ มีลูกทันพ่อแม่เป็นวัยรุ่นน่ารักดี แต่ไม่ทันแล้วครับ (หัวเราะ)

วันพฤหัสบดีที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2554

ข่าวสารวันที่ 02/09/2554

มหากาพย์สงครามน้ำลายที่ดูท่าจะบานปลายส่อแววถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาล เมื่อคู่กรณีอย่าง “ออย ศรุตา” ออกมาแสดงความไม่พอใจหลังจากที่นางเอกสาว “ชมพู่ อารยา” ออกมาแถลงข่าวขอโทษแต่ไม่เอ่ยชื่อจากกรณีที่เพื่อนทวีตแกล้ง ซึ่งอีกฝ่ายกำลังดูท่าทีอยู่ว่าจะฟ้องร้องดำเนินคดีหรือไม่ ด้านนางเอกสาวก็บ่ายเบี่ยงไม่ขอพูดถึงประเด็นข่าวฉาวนี้อีก ปัดขอโทษอีกรอบ
เห็นคำสัมภาษณ์ของออยยังมีความคิดเห็นยังไงบ้าง 
      “เรื่องความคิดเห็นคงไม่มี แต่ก็เห็นคำสัมภาษณ์แล้ว”
ออยยังโมโห 
      “ชมก็ไม่มีอะไรพูดเพราะพูดไปหมดแล้ว”
เขาบอกอาจจะมีการฟ้องร้อง 
      “ก็เดี๋ยวค่อยว่ากัน ตอนนี้ก็อยู่แต่กับวันนี้ ถามว่าจะมีการโทรไปเคลียร์นอกรอบไหม ชมขอไม่พูดถึงแล้วดีกว่า”
เขาติดใจว่าตอนเราแถลงข่าวขอโทษแล้วไม่ได้เอ่ยชื่อเขา 
      “ก็ชมทำหน้าที่ตรงนั้นไปแล้วไม่พูดอะไรแล้วดีกว่า”
พี่น็อตให้กำลังใจอย่างไรบ้าง 
      “ส่วนมากจะให้สติมากกว่า ก็ไม่เฉพาะพี่น็อต ทุกคนก็ให้กำลังใจคะ”
เหมือนเราค่อนข้างจะเสียเปรียบแต่ก็มีหลายคนให้กำลังใจเรา 
      “ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจแล้วกันคะ และสำหรับคนที่แสดงความคิดเห็น ชมก็เคารพในวิจารณญาณของทุกคน วันนี้ได้แต่บอกตัวเองว่าทำดีที่สุดแล้ว”
เครียดไหม 
      “เดี๋ยวมันก็ผ่านไปคะ”
กับเพื่อนคนที่ทวีตไปเคลียร์กันหรือยัง 
      “เขาโทรมาแล้วคะ ก็คุยกัน ก็ขอโทษ ชมเข้าใจว่าเขายังกลัวๆ ชมอยู่ จริงๆ เป็นเพื่อนรักกัน คำว่าให้อภัยก็ให้ได้อยู่แล้ว”
เหมือนทางโน้นเขารอดูคำสัมภาษณ์เราแล้วจะตัดสินว่าจะฟ้องหรือไม่ฟ้อง 
      “ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว”
เรากลัวไหมถ้าเขาจะฟ้อง 
      “ไม่พูดถึงดีกว่า”
อยากจะขอโทษเอ่ยชื่อเขาไหม 
      “คิดว่าไม่ขอพูดถึงเรื่องนี้ดีกว่า วันนั้นเคลียร์ไปแล้ว”
อีกฝ่ายบอกว่าเรายืมมือเพื่อนฆ่าเขา 
      “เราก็ชี้แจงไปแล้ว ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว”
เรื่องนี้บั่นทอนจิตใจมากน้อยแค่ไหน 
      “ก็หนักเหนือนกันนะ แต่โอเคเดี๋ยวก็ผ่านไป ถือว่าเป็นแบบทดสอบชีวิตแล้วกันเนอะ”

ข่าวสารวันที่ 02/09/2554

มหากาพย์สงครามน้ำลายที่ดูท่าจะบานปลายส่อแววถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาล เมื่อคู่กรณีอย่าง “ออย ศรุตา” ออกมาแสดงความไม่พอใจหลังจากที่นางเอกสาว “ชมพู่ อารยา” ออกมาแถลงข่าวขอโทษแต่ไม่เอ่ยชื่อจากกรณีที่เพื่อนทวีตแกล้ง ซึ่งอีกฝ่ายกำลังดูท่าทีอยู่ว่าจะฟ้องร้องดำเนินคดีหรือไม่ ด้านนางเอกสาวก็บ่ายเบี่ยงไม่ขอพูดถึงประเด็นข่าวฉาวนี้อีก ปัดขอโทษอีกรอบ
เห็นคำสัมภาษณ์ของออยยังมีความคิดเห็นยังไงบ้าง 
      “เรื่องความคิดเห็นคงไม่มี แต่ก็เห็นคำสัมภาษณ์แล้ว”
ออยยังโมโห 
      “ชมก็ไม่มีอะไรพูดเพราะพูดไปหมดแล้ว”
เขาบอกอาจจะมีการฟ้องร้อง 
      “ก็เดี๋ยวค่อยว่ากัน ตอนนี้ก็อยู่แต่กับวันนี้ ถามว่าจะมีการโทรไปเคลียร์นอกรอบไหม ชมขอไม่พูดถึงแล้วดีกว่า”
เขาติดใจว่าตอนเราแถลงข่าวขอโทษแล้วไม่ได้เอ่ยชื่อเขา 
      “ก็ชมทำหน้าที่ตรงนั้นไปแล้วไม่พูดอะไรแล้วดีกว่า”
พี่น็อตให้กำลังใจอย่างไรบ้าง 
      “ส่วนมากจะให้สติมากกว่า ก็ไม่เฉพาะพี่น็อต ทุกคนก็ให้กำลังใจคะ”
เหมือนเราค่อนข้างจะเสียเปรียบแต่ก็มีหลายคนให้กำลังใจเรา 
      “ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจแล้วกันคะ และสำหรับคนที่แสดงความคิดเห็น ชมก็เคารพในวิจารณญาณของทุกคน วันนี้ได้แต่บอกตัวเองว่าทำดีที่สุดแล้ว”
เครียดไหม 
      “เดี๋ยวมันก็ผ่านไปคะ”
กับเพื่อนคนที่ทวีตไปเคลียร์กันหรือยัง 
      “เขาโทรมาแล้วคะ ก็คุยกัน ก็ขอโทษ ชมเข้าใจว่าเขายังกลัวๆ ชมอยู่ จริงๆ เป็นเพื่อนรักกัน คำว่าให้อภัยก็ให้ได้อยู่แล้ว”
เหมือนทางโน้นเขารอดูคำสัมภาษณ์เราแล้วจะตัดสินว่าจะฟ้องหรือไม่ฟ้อง 
      “ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว”
เรากลัวไหมถ้าเขาจะฟ้อง 
      “ไม่พูดถึงดีกว่า”
อยากจะขอโทษเอ่ยชื่อเขาไหม 
      “คิดว่าไม่ขอพูดถึงเรื่องนี้ดีกว่า วันนั้นเคลียร์ไปแล้ว”
อีกฝ่ายบอกว่าเรายืมมือเพื่อนฆ่าเขา 
      “เราก็ชี้แจงไปแล้ว ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว”
เรื่องนี้บั่นทอนจิตใจมากน้อยแค่ไหน 
      “ก็หนักเหนือนกันนะ แต่โอเคเดี๋ยวก็ผ่านไป ถือว่าเป็นแบบทดสอบชีวิตแล้วกันเนอะ”

วันพุธที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ข่าวสารวันที่ 01/09/2554

พบร่องรอยคล้ายพญานาคโผล่ใกล้หิ้งพระ ในทาวน์โฮม3ชั้นกลางกรุงเทพฯ เจ้าของเผย ตั้งใจไหว้พระปฎิบัติธรรม จนพบ"รอยพญานาค"ดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (31 ส.ค.) พบร่องรอยประหลาดคล้ายพญานาคอยู่ในบ้านเลขที่ 197/4 ซอยสุขุมวิท 31 หรือซอยสวัสดี แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา โดยบ้านดังกล่าวเป็นทาวน์โฮมสูง 3 ชั้นครึ่งมีนางสำอาง เอ็ดเวิร์ด อายุ 46 ปี เป็นเจ้าของบ้าน ตรวจสอบภายในห้องพระบนชั้น 3  พบร่องรอยคล้ายคราบโคลน ที่เกิดจากการเลื้อยของสัตว์เลื้อยคลานอยู่บริเวณใต้โต๊ะหมู่บูชา เลื้อยขึ้นไปบนกำแพงห้องด้านหลังโต๊ะหมู่บูชาทั้งด้านซ้ายและขวา
นางสำอาง เปิดเผยว่า ช่วงออกพรรษาปี 52 มีเพื่อนพาไปทอดกฐินที่วัดซับไพเราะ ต.ซับไม้แดง อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ เมื่อไปถึงพบรถเก๋งจอดอยู่หน้ากุฏิหลวงพ่อสมชาย ตะปะสี เจ้าอาวาสมีร่องรอยประหลาดคล้ายพญานาคเลื้อยติดอยู่ฝากระโปรงหน้ารถ
"บนกุฏิและที่กำแพงโบสถ์ก็เห็นร่องรอยแบบเดียวกันติดอยู่ สาเหตุชาวบ้านบอกว่าร่องรอยดังกล่าวจะไปปรากฏให้เห็นกับผู้ที่หมั่นทำบุญสร้างความดีและสวดมนต์ไหว้พระเป็นประจำ ดิฉันกลับมาก็ตั้งใจปฏิบัติธรรม จุดธูปเทียนสวดมนต์ไหว้พระทุกเช้า กระทั่งมาพบรอยดังกล่าวในบ้าน" นางสำอาง

วันอังคารที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ข่าวสารวันที่ 31 สิงหาคม 2554

เฉลิม ลั่นอีกไม่เกิน 7 วัน ได้ผบ.ตร. คนใหม่ ระบุถึงเวลาคืนความเป็นธรรมให้กับ พล.ต.อ.เพรียวพันธุ์ วอนอย่ามองเป็นการเปลี่ยนเพื่อให้ญาติของทักษิณ มาดำรงตำแหน่ง 

(30 ส.ค.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีการปรับเปลี่ยน ผบ.ตร. ภายหลังหลังการประชุมสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ก.ตร.) ว่า การปรับเปลี่ยนนั้นเป็นการปรับเปลี่ยนเพื่อใช้คนให้ถูกกับงาน  เมื่อถึงเวลาจะบอกให้ทราบ อย่าไปมองว่าเป็นการเปลี่ยนเพื่อให้ญาติของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มาดำรงตำแหน่ง ถามว่า ตอนปฏิวัติ ย้าย พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ทำไม เพราะคุณเพรียวพันธ์ เป็นญาติท่านทักษิณ ต้องให้ความเป็นธรรม ทำไมต้องเอาเขาไปสำนักนายกฯ เพราะคุณปฏิวัติ เพราะเผด็จการ
เมื่อถามว่า ถึงเวลาคืนความเป็นธรรมให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ แล้วใช่หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า นั่นก็เป็นส่วนหนึ่งที่ตนคิด แต่วิธีปฏิบัติก็ต้องมีขั้นตอน ตนจะทำอะไรตามใจไม่ได้ มันต้องรอความเหมาะสม ทั้งจังหวะ เวลา เหตุผล เรื่องสำคัญที่สุดต้องตอบสังคมได้ ตนถามนิดนึงว่า ตอนคุณอภิสิทธิ์ ย้ายคุณพัชรวาท อาศัยเหตุผลอะไร ตอน คุณสุรยุทธ์ ย้าย คุณโกวิท มีเหตุผลอะไร ไม่มีตำตอบให้สังคม โดยคาดว่าภายใน 7 วันกรณีย้าย ผบ.ตร. น่าจะมีความชัดเจน

วันจันทร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ข่าวสารวันที่30 สิงหาคม 2554

พรทิพย์" มือส่งเมล์ขู่นักข่าวช่อง7 โอดกำลังถูกสื่อคุกคามเสรีภาพ ด้านกลุ่มคนเสื้อแดงนัดรวมพลจ่อบุกช่อง 7 วันนี้ จี้ปลดนักข่าวสาว
     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (29 ส.ค.) เว็บไซต์คนเสื้อแดง thaienews.blogspot.com ได้เผยว่า น.ส.พรทิพย์ ปักษานนท์ แกนนำเสื้อแดงเพชรบุรี ซึ่งถูกนักข่าวช่อง 7 สีดำเนินคดีและประกาศไม่ถอนแจ้งความ เปิดเผยว่า เรื่องมีอยู่ว่า ข่าวที่ส่งอีเมล์นั้น ไม่ได้เขียนเอง แต่ได้คัดสำเนามาจากเว็บไซต์แห่งหนึ่ง โดยไม่ได้เขียนต่อเติมใดๆลงไปเลย โดยมีเจตนาส่งไปยังเพื่อนๆในกลุ่มที่ส่งข่าวสารกันทางอีเมล์ให้ได้อ่าน ซึ่งก็ปฏิบัติแบบนี้เป็นปกติ
ทีนี้ก็เห็นมีแถลงการณ์ของ สส.ปชป.สงขลา ออกมาขานรับนักข่าวว่าแกนนำเสื้อแดงเพชรบุรีคุกคามนักข่าว
       ดิฉันเองก็ตกเป็นผู้เสียหายเช่นกัน เพราะการที่นักข่าวผู้นี้นำอีเมล์ของดิฉันไปเปิดเผย พร้อมชื่อนามสกุล ทำให้มีคนส่งอีเมล์มาด่าหยาบๆคายมากมาย ซึ่งก็เซฟเก็บไว้ทั้งหมดแล้ว
       การที่นักข่าวไปแจ้งความนั้น ความจริงแล้วไม่สามารถเอาผิดได้ ไม่ว่า พรบ.คอมพิวเตอร์ หรือ ข้อหา ข่มขู่ คุกคาม ก็ไม่เข้าข้อกฏหมายใดๆทั้งสิ้น ตำรวจคงจะบอกว่าเอาความไม่ได้ นักข่าวรายนี้จึงออกมาบอกว่า แจ้งความไว้เป็นหลักฐาน ก็รออยู่ค่ะ อยากให้เขาฟ้อง เราก็ได้จะฟ้องกลับทันที
       ทั้งที่เราก็ได้แสดงสปิริต ตามที่วิญญูชน จะพึงกระทำแล้ว โดยขอโทษทั้งๆที่ไม่ผิด เราไม่ได้ส่งให้นักข่าวคนนี้เลย ไม่ได้เผยแพร่ในวงกว้างอะไรเลย เราส่งให้ในกลุ่มเพื่อนเสื้อแดง การที่เขาทำอย่างนี้ เราในฐานะประชาชนกำลังถูกสื่อคุกคามเสรีภาพ กำลังถูกละเมิดสิทธิของความเป็นมนุษย์ ที่สำคัญถูกละเมิดโดยสื่อ สื่อ ฐานันดร ที่ใครก็แตะไม่ได้วิจารณ์ไม่ได้
       ยิ่งพวกสมาคมสื่อ ลงมาออกหน้าแบบนี้ เห็นควรว่าน่าจะหันกลับไปดูความเป็นองค์กร ที่ทำข่าวสู่สายตา ประชาชนแล้ว ลุกขึ้นมา ประกาศต่อๆกันไป โดยไม่ได้หันกลับมาดู พิสูจน์ด้วยสายตาว่าข้อเท็จจริงนั้นคนที่พวกตนกล่าวหานั้น เป็นจริงหรือไม่? ผิดวิสัยของความเป็นนักข่าว ดิฉันคิดว่าใคร? กันแน่ที่ถูกคุกคาม ใคร? มาละเมิดสิทธิมนุษยชน...ใคร? รังแกประชาชน" น.ส.พรทิพย์ กล่าว
       ทั้งนี้ กลุ่มคนเสื้อแดงในนาม"สมัชชาประชาชนเพื่อการปฏิวัตประเทศไทย"ได้นัดหมายกันตามสื่อต่างๆ ทั้งโซเชียลมีเดีย และเว็บบอร์ดประชาทอล์กว่า ในวันอังคารที่ 30 สิงหาคม เวลา 13.00 น. ขอเรียนเชิญ พี่น้องเสื้อแดงไปพร้อมกันที่ สถานีรถไฟฟ้าหมอชิต เพื่อเดินทางไปโดยพร้อมเพรียงกันไปยัง สถานีวิทยุโทรทัศน์ช่อง 7 เพื่อยื่นแถลงการณ์ให้ปลดนักข่าวรายนี้ ออกจากหน้าที่ เพราะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความมีอคติ ปฏิบัติหน้าที่เพื่อสนองความต้องการของตัวเอง ไร้จรรยาบรรณของสื่อมวลชนที่ดี และยื่นพวงหรีดเพื่อแสดงการต่อต้านที่ ช่อง 7 สนับสนุนให้นักข่าวปฏิบัติหน้าที่ ทั้งที่ ไร้จรรยาบรรณ

ข่าวสารวันที่29 สิงหาคม 2554

หิ้วหนุ่มเมืองกรุง ยิงทิ้ง ถีบลงเหวบนเขาธง ต.ช้างกลาง อ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช
พ.ต.ท.พิชัย ภู่พรหมมินทร์ สวส.สภ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งเหตุยิงกันเหตุเกิดบนเขาธง ถนนสายช้างกลาง-นครศรีธรรมราช หมู่ที่ 14 ต.ช้างกลาง อ.ช้างกลาง หลังจากรับแจ้งจึงรุดไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมโชค จันทรมณี ผกก. พร้อมชุดสืบสวนและหน่วยกู้ภัยช้างกลาง
ที่เกิดเหตุบริเวณยอดเขาธง ซึ่งเป็นจุดชมวิวและบริเวณริมถนน พบร่างคนเจ็บนอนสลบอยู่ ตามร่างกายเต็มไปด้วยเลือด จึงรีบนำส่ง ร.พ.สมเด็จพระยุพราชฉวาง ทราบชื่อ นายวณัฐภูมิ ปัญญารอด อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 329/18 ซ.ลาดพร้าว 18 เขตวังทองหลาง กทม. มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืน ขนาด 11 มม. เข้าที่บริเวณลำตัว 1 นัด แขนขวา 1 นัด แต่เนื่องจากมีอาการสาหัส จึงส่งต่อไปยัง ร.พ.มหาราช อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช แพทย์ให้การช่วยเหลือจนพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ยังไม่สามารถให้ปากคำได้
จากการสอบสวนเบื้องต้นคาดว่า นายวณัฐภูมิ มีอาชีพขับรถแท็กซี่ใน กทม. และเพิ่งเดินทางมากับรถทัวร์โดยสาร มาลงที่ตัวเมืองนครศรีธรรมราช สันนิษฐานว่า ก่อนที่คนเจ็บจะถูกยิง อาจจะเดินทางมาพบกับคนร้ายที่รู้จักกันมาก่อนและเกิดขัดใจกันขึ้นหรืออาจจะถูกล่อลวงมาที่บนเขาธง ซึ่งเป็นจุดชมวิวแล้วถูกคนร้ายยิงทิ้งพร้อมกับถีบร่างคนเจ็บตกลงไปในเหว

วันอังคารที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ข่าวสารวันที่23 สิงหาคม 2554

ศึกลาลีกา สเปน เลื่อนนัดเปิดฤดูกาลไปอีกครั้ง หลัง ลีกแดนกระทิงดุ ปฏิเสธข้อเรียกร้องของสหภาพนักฟุตบอลอาชีพแห่งสเปน และยังรามไปถึงกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ที่สหภาพนักฟุตบอลอาชีพอิตาลี ขู่ว่านักเตะจะไม่ลงเล่นนัดเปิดฤดูกาลเพราะไม่พอใจข้อตกลงร่วมฉบับใหม่ ที่บีบให้ย้ายทีมได้
 
เมื่อวันจันทร์ที่ 22 สิงหาคม ที่ผ่านมา นัดเปิดฤดูกาลศึกลาลีกา สเปน ต้องเลื่อนไปอีกครั้ง หลัง บรรดาผู้เล่นสไตรก์ต่อ เพราะจากการเจรจาครั้งล่าสุดของ สหภาพนักฟุตบอลอาชีพแห่งสเปน (เอเอฟอี)กับ ลีกา เดอ ฟุตบอล โปรเฟสชั่นแนล (LFP) ฝ่ายจัดการแข่งขัน ล้มเหลวไม่เป็นท่าอีกครั้ง

ข้อเรียกร้องที่สหภาพนักฟุตบอลอาชีพแห่งสเปนเสนอไป คือให้มีการประกันค่าเหนื่อยของนักนักเตะถ้าทีมเจอปัญหาทางการเงิน และ สามารถยกเลิกสัญญาได้ถ้าไม่ได้รับเงินค่าจ้าง 3 เดือนติดต่อกัน แต่ถูก ลีกแดนกระทิงดุ ปฏิเสธข้อเรียกร้องดังกล่าว และจะมี การเจรจากันอีกครั้งใน วันอังคารที่ 23 สิงหาคมนี้

เรื่องการสไตรก์ ยังลุกรามไปถึงกัลโช เซเรีย อา อิตาลี เมื่อ สหภาพนักฟุตบอลอาชีพอิตาลี (เอไอซี) ออกมาขู่ว่านักเตะจะไม่ลงทำการแข่งขันในนัดเปิดฤดูกาล 2011-12 ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ หลัง นักเตะไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงร่วมฉบับใหม่ ที่จะให้นักเตะที่ไม่เป็นที่ต้องการของทีม แยกไปซ้อมเดี่ยว เพื่อบีบให้ย้ายทีม ซึ่งการประชุมจะมีขึ้นในวันอังคารนี้ เช่นกัน

วันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ข่าวสารวันที่ 22 สิงหาคม 2554

กลุ่มนักรบฝ่ายต่อต้านบุกเข้ากรุงตริโปลี เมืองหลวงของลิเบีย ได้แล้ว โดยอ้างว่าสามารถยึดเมืองทั้งหมด ยกเว้นฐานที่มั่นบับ อัล อาซิซิยา จาซีราของ พ.อ.มูอัมมาร์ กัดดาฟี
(22 ส.ค.) สถานีโทรทัศน์อัลจาซีรารายงานว่า กลุ่มนักรบฝ่ายต่อต้านบุกเข้าจากฝั่งตะวันตกแล้วพากันยิงปืนขึ้นฟ้าแสดงความ ยินดี ขณะที่ชาวเมืองออกมาชุมนุมฉลองกันตามท้องถนน ฉีกทำลายโปสเตอร์ภาพกัดดาฟี เช่นเดียวกับชาวเมืองเบงกาซี ทางตะวันออกที่ออกมาชุมนุมยินดีเมื่อทราบข่าว
ด้านสถานีโทรทัศน์ของรัฐในลิเบียออกอากาศเสียงของ พ.อ.กัดดาฟี ที่เรียกร้อง 2 ครั้งให้ชาวลิเบียต่อสู้กับฝ่ายต่อต้านที่จะเผาเมือง ตัดน้ำตัดไฟ รวมถึงเสรีภาพ เขาจะเปิดคลังอาวุธให้ประชาชนนำไปต่อสู้ ขณะที่โฆษกรัฐบาลกล่าวว่า จะเกิดการสังหารหมู่ในกรุงตริโปลีต่อต้านให้ พ.อ.กัดดาฟี ลงจากตำแหน่งทันที เพราะฝ่ายต่อต้านบุกเข้ามาพร้อมกับความเกลียดชัง ด้านองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ระบุว่า การถ่ายโอนอำนาจในลิเบียต้องเป็นไปโดยสันติ
กรุงตริโปลีถูกยึดหลังเกิดสงครามกลางเมืองนาน 6 เดือน เนื่องจากประชาชนพร้อมใจกันลุกฮือในคืนวันเสาร์ ประสานกับกองกำลังฝ่ายต่อต้านที่บุกโอบล้อม 3 ด้าน ผู้ประสานงานของสภาการถ่ายโอนอำนาจแห่งชาติยืนยันว่า นายซาอิฟ อัลอิสลาม บุตรชายคนรองของกัดดาฟี ถูกควบคุมตัวแล้ว ส่วนนายโมฮัมเหม็ด อัลกัดดาฟี บุตรชายคนโต ยอมมอบตัวกับฝ่ายต่อต้าน เจ้าหน้าที่รัฐบาลลิเบียเผยว่า กำลังของทั้งสองฝ่ายเสียชีวิตรวมกัน 376 คน ในการต่อสู้เมื่อคืนวันเสาร์ และบาดเจ็บราว 1,000 คน.-สำนักข่าวไทย

วันพฤหัสบดีที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2554

วันวิทยาศาสอร์

 
 
 
 
 
 
ประวัติความเป็นมา ความสำคัญของวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ
      
18 สิงหาคม วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ
 
 
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเป็น "พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย"
  
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเป็น "พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์แห่งชาติไทย"

ความเป็นมาของวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ

            วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติได้เริ่มมีขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ.2525 โดย มติของคณะรัฐมนตรี ให้มีวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติขึ้นเมื่อวันที่ 14 เมษายน พ.ศ.2525 เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเป็น "พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย" วันวิทยาศาสตร์แห่งชาตินี้เป็นเพราะพระองค์ทรงคำนวณการเกิดสุริยุปราคาที่ตำบลหว้ากอ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ.2411 ได้อย่างแม่นยำ และต่อมาได้มีการสร้าง "อุทยานวิทยาศาสตร์" ที่ บ้านหว้ากอ ต่อไปมาศึกษาที่มาของวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ  

ที่มาของชื่อ วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ

            ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่ออุทยานนี้ว่า "อุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์" และได้รับพระบรมราชานุญาติให้จัดสร้าง พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบรมรูปหล่อประทับนั่งบนพระเก้าอี้ฉลองพระองค์เครื่องแบบทหารเรือ ชุดเดียวกับวันที่พระองค์ท่านเสด็จพระราชดำเนินมาบ้านหว้ากอ เพื่อเป็นการระลึกถึง วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ 
 
วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ 2554
 
ภาพเกี่ยวกับ วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ 2554

รัชกาลที่ 4 กับวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ

           พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ ทรงสนพระทัยวิชาคณิตศาสตร์และวิชาดาราศาสตร์ในตำราโหราศาสตร์ของไทยในที่สุดพระองค์ทรงได้ค้นคิดวิธีการคำนวณปักข์ (ครึ่งเดือนทางจันทรคติ) เพื่อประโยชน์ในการกำหนดวันธรรมสวนะ (วันพระ) ให้ถูกต้องตามการโคจรของดวงจันทร์ที่เรียกว่า "ปฏิทินปักขคณนา" (ปักขคณนาคือวิธีนับปักข์หรือรอบครึ่งเดือนของข้างขึ้นข้างแรม เป็นวิธีนับที่แม่นยำสูง) และทรงมีพระบรมราชานุญาตให้ใช้ทำปฏิทินจันทรคติพระทุกปี แทนปฏิทินฆราวาส ขณะเดียวกันพระองค์ได้ทรงค้นคิดสูตรสำเร็จในการคำนวณปักข์ออกมาในรูปกระดานไม้สี่เหลี่ยมผืนผ้า เพื่อจะได้วันพระที่ถูกต้องโดยไม่ต้องเสียเวลาคำนวณ และมีชื่อเรียกว่า "กระดานปักขคณนา" ซึ่งสิ่งเหล่านี้น่าจะเป็นสาเหตุที่จุดประกายให้พระองค์ทรงเริ่มสนพระทัยในวิชาดาราศาสตร์อย่างจริงจัง และถือเป็นเหตุของที่มาของวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติอีกทางหนึ่ง 
  
ปรากฏการณ์สุริยุปราคาเต็มดวง, วันวิทยาศาสตร์ 2554
 
ปรากฏการณ์สุริยุปราคาเต็มดวง

 

ดาราศาสตร์ไทยและวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ

            ในพระราชฐานของพระองค์ ทั้งที่กรุงเทพมหานครและต่างจังหวัดจะมีหอดูดาว โดยเฉพาะหอชัชวาลเวียงชัย ในบริเวณพระนครคีรีหรือเขาวัง พระราชวังสำหรับแปรพระราชฐาน อยู่ที่จังหวัดเพชรบุรี ที่มีความสำคัญมากในประวัติศาสตร์วิชาดาราศาสตร์ของไทย ด้วยมีพระราชประสงค์จะให้เป็นสถานที่สังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์ ในการรักษาเวลามาตรฐานของประเทศไทยต่อไป ดังนั้นหอนี้จึงเป็นอนุสรณ์แห่งสัมฤทธิผลในทางวิทยาศาสตร์เรื่องระบบเวลาพระองค์ทรงสถาปนาระบบเวลามาตรฐานขึ้นในประเทศไทย เมื่อ พ.ศ.2395 โดยสร้างพระที่นั่งภูวดลทัศไนยขึ้นในพระบรมราชวัง ใช้เป็นหอนาฬิกาหลวงบอกเวลามาตรฐานของประเทศไทยสมัยนั้น โดยมีพนักงานตำแหน่งพันทิวาทิตย์ เทียบเวลาตอนกลางวันจากดวงอาทิตย์ และพันพินิตจันทรา เทียบเวลาตอนกลางคืนจากดวงจันทร์ 
โครงการทางวิทยาศาสตร์และสื่อการสอนวิทยาศาสตร์
  
โครงการทางวิทยาศาสตร์และสื่อการสอนวิทยาศาสตร์ 

ทรงพิสูจน์ผลการคำนวนทางดาราศาสตร์-วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ 

            ต่อมาใน วันศุกร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ.2411 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินทางชลมารค โดยเรือพระที่นั่งอรรคราชวรเดชจากท่านิเวศวรดิษฐ์ไปยังบ้านหว้ากอ พร้อมด้วยพระราชโอรส พระราชธิดา รวมทั้งสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ฯ (รัชกาลที่ 5) ขณะพระชนมายุ 16 พรรษา กับเจ้านายชั้นผู้ใหญ่ ข้าราชบริพารจำนวนมาก ด้วยทรงตั้งพระปณิธานแน่วแน่ที่จะพิสูจน์ผลการคำนวนของพระองค์ เพื่อทอดพระเนตรสุริยุปราคาเต็มดวงที่ทรงคำนวณพยากรณ์ไว้ล่วงหน้า 2 ปี ว่าจะเกิดในวันอังคาร ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 10 ปีมะโรง สัมฤทธิศก จุลศักราช 1230 
ทอดพระเนตรสุริยุปราคาเต็มดวง-ที่มาของวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ 
            โดยจะเห็นหมดดวงและชัดเจนที่สุด คือ ที่หมู่บ้านหัววาฬ ตำบลหว้ากอ อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตั้งแต่บริเวณ เกาะจาน ขึ้นไปถึง ปราณบุรี และลงไปถึง จังหวัดชุมพร จึงโปรดฯ ให้เจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) ไปสร้างค่ายหลวงและพลับพลาที่ประทับ พร้อมกับเชิญคณะนักดาราศาสตร์จากประเทศฝรั่งเศส และเซอร์แฮรี ออด เจ้าเมืองสิงคโปร์เดินทางมาเข้าเฝ้าฯ และร่วมในการสังเกตการณ์ ซึ่งเมื่อถึงวันอังคารที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2411 เหตุการณ์ก็เป็นไปตามที่พระองค์ทรงพยากรณ์ทุกประการ ไม่คลาดเคลื่อนแม้แต่วินาทีเดียว 
 
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาประเทศ ให้เจริญก้าวหน้า
 
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้า
ทรงได้รับการยกย่องเกียรติคุณ-ที่มาของวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ
            ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เซอร์แฮรี ออด ได้ทำการบันทึกเหตุการณ์ไว้ และเมื่อ พ.ศ.2518 หม่อมหลวงปิ่น มาลากุล ได้ทำการแปลเป็นภาษาไทยในงานหว้ากอรำลึก ณ ท้องฟ้าจำลอง กรุงเทพมหานคร ว่า "พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระสำราญมาก เพราะการคำนวณเวลาสุริยุปราคาของพระองค์ ได้พิสูจน์แล้วว่าถูกถ้วนที่สุด ถูกถ้วนยิ่งกว่าที่ชาวยุโรปได้คำนวณไว้" 

            ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงรับเอาศิลปวิทยาการ และความคิดสมัยใหม่มาประยุกต์ใช้ในการปกครองประเทศ ด้วยเหตุนี้องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) จึงได้ประกาศยกย่องพระเกียรติคุณของพระองค์ให้ทรงเป็นบุคคลสำคัญของโลก ด้วยพระราชกรณียกิจและพระเกียรติคุณนานัปการ โดยเฉพาะพระราชกรณียกิจด้านดาราศาสตร์  
 
สัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ 2554
 
สัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ
สถาปนาวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ
          ทั้งนี้ สมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ มีแนวคิดว่าน่าจะถือเอาวันที่ 18 สิงหาคม เป็น วันวิทยาศาสตร์ ไทย ต่อมาวันที่ 14 เมษายน พ.ศ.2525 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็น "พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย"  พร้อมทั้งกำหนดให้วันที่ 18 สิงหาคม เป็น "วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ" และต่อมาได้มีการสร้าง "อุทยานวิทยาศาสตร์" ที่ บ้านหว้ากอ เนื่องในการสถาปนาวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ 

          ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่ออุทยานนี้ว่า "อุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์" และได้รับพระบรมราชานุญาตให้จัดสร้าง พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบรมรูปหล่อประทับนั่งบนพระเก้าอี้ฉลองพระองค์เครื่องแบบทหารเรือ ชุดเดียวกับวันที่พระองค์ท่านเสด็จพระราชดำเนินมาบ้านหว้ากอ เพื่อเป็นการระลึกถึงบิดาแห่งวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ
 
 
 
ดาวหางโดนาติ ( Donati a Comet) เป็นดาวหางที่มีขนาดใหญ่มาก
 
ดาวหางโดนาติ ( Donati a Comet) เป็นดาวหางที่มีขนาดใหญ่มาก
วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ
พระราชกรณียกิจทางด้านดาราศาสตร์ของรัชกาลที่ 8
 
            เนื่องจากวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่ หัว ทรงโปรดฯ ให้สร้างหอดูดาวบนเขาวัง ในจังหวัดเพชรบุรี เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๐๓ พระราชทานนามว่า "หอชัชวาลเวียงชัย" ซึ่งตลอดพระชนม์ชีพของพระองค์ ได้เคยทอดพระเนตรดาวหาง 3 ดวงคือ
ดาวหางฟลูกเกอร์กูส วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ
ดาวหางฟลูเกอร์กูส (Flaugergues s Comet) เป็นดาวหางที่มีขนาดใหญ่และมีหาง 2 หาง ปรากฏในรัชสมัย พระพุทธเลิศหล้านภาลัย เมื่อ พ.ศ. 2355 ขณะนั้นเจ้าฟ้ามงกฏมีพระชันษาราว 8 ปี เมื่อทรงเห็นแล้ว คงจะทรงติดตามศึกษาเรื่องดาวหางอยู่เสมอ เพราะว่าก่อนดวงที่ 2 จะมาปรากฏ พระองค์สามารถทรงนิพนธ์ประกาศฉบับแรกชื่อว่า " ประกาศดาวหางขึ้นอย่าได้วิตก" แจ้งแก่ประชาชน"
ดาวหางโดนาติ วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ
ดาวหางโดนาติ ( Donati a Comet) เป็นดาวหางที่มีขนาดใหญ่มาก นักดาราศาสตร์อิตาเลียนค้นพบในคืนวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ 2401 และคืนต่อๆมา จนถึงวันที่ 4มีนาคม พ.ศ. 2402 (รวมเวลา ๙ เดือน) ชาวไทยคงจะเห็นด้วยตาเปล่า ระหว่างเดือนกันยายน-ตุลาคม พ.ศ. 2401 ดาวหางดังกล่าวมีลักษณะเป็น 2 หาง หางหนึ่งเหยียดตรง อีกหางหนึ่งเป็นพู่โค้งสวยงามอยู่ราว 2 เดือน พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเกรงว่า เมื่อประชาชนเห็นดาวหางโดนาติ แล้วจะตื่นเต้นไปตามคำลือต่างๆ จึงทรงออกประกาศเตือนชื่อว่า "ประกาศดาวหางขึ้นอย่าได้วิตก" นับเป็นประกาศทางวิทยาศาสตร์ฉบับแรกของประเทศ มีความว่า "ดาวหางนี้ชาวยุโรปได้เห็นมาแล้วหลายเดือน ดาวหางนี้มีคติแลทางยาวไปในท้องฟ้า แล้วก็กลับมาได้เห็นในประเทศทั้งนี้อีก เพราะเหตุนี้อย่าให้ราษฎรทั้งปวงตื่นกัน และคิดวิตกเล่าลือไปต่างๆ ด้วยว่ามิใช่จะเห็นแต่ในพระนครนี้ และเมืองที่ใกล้เคียงเท่านั้นหามิ ได้ย่อมได้เห็นทุกบ้านทุกเมืองทั่วพิภพอย่างนี้แล"
 
นิทรรศการวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ
 
นิทรรศการวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ
ดาวหางเทพบุท วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ
ดาวหางเทพบุท (Tebbut s Comet ) เป็นดาวหางที่มีขนาดใหญ่ หางยาว และสว่างกว่าดาวหางโดนาติ ปรากฏแก่สายตาชาวโลก ระหว่างเดือนมิถุนายน - กรกฎาคม พ.ศ. 2404 เป็นดาวที่พระองค์ทรงสนพระราชหฤทัยมากยิ่งขึ้น ถึงกับทรงได้คำนวณไว้ล่วงหน้าว่า จะปรากฏเมื่อใด และได้ทรงออกประกาศไว้ล่วงหน้า มิให้ประชาชนตื่นตระหนก ทั้งนี้เพราะพระองค์ มีพระราชประสงค์มุ่งขจัดความเชื่อ เกี่ยวกับเรื่องโชคลาง และทรงให้ราษฎรตั้งอยู่ในความไม่ประมาท เตรียมพร้อมที่จะเผชิญเหตุการณ์ (ถ้าจะเกิด) อย่างมีเหตุผลตามแบบวิทยาศาสตร์
        นอกจากนี้ เมื่อปี พ.ศ. 2527 กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้จัดงานสัปดาห์วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติขึ้นเป็นครั้งแรก ระหว่างวันที่ 18 - 24 สิงหาคม โดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานราชการต่างๆ เพื่อจัดงานวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ จนได้รับความสนใจเข้าร่วมงานวันวิทยาศาสตร์แห่งชาตินี้ ทั้งจากภาครัฐ เอกชน และประชาชนทั่วไป ซึ่งทำให้คณะรัฐมนตรีได้เล็งเห็นความสำคัญของวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ ดังนั้น เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2528 คณะรัฐมนตรีจึงได้อนุมัติให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ดำเนินการจัดงาน "สัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ" เพราะมีเหตุมาจากวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ เป็นประจำทุกปี ระหว่าง วันที่ 18 - 24 สิงหาคม
 
ร่วมกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์
 
ร่วมกิจกรรมในวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ
ความหมายของคำศัพท์ในวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ
    วิทยาศาสตร์ หมายถึง
 
        วิทยาศาสตร์ หมายถึง ความรู้เกี่ยวกับสิ่งต่างๆในธรรมชาติทั้งที่มีชีวิตและไม่มีชีวิตรวมทั้งกระบวนการประมวลความรู้เชิงประจักษ์ที่เรียกว่ากระบวนการทางวิทยาศาสตร์และกลุ่มขององค์ความรู้ที่ได้จากกระบวนการดังกล่าว
 
        การศึกษาในด้านวิทยาศาสตร์ยังถูกแบ่งย่อยออกเป็น วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ และ วิทยาศาสตร์ประยุกต์คำว่า science ในภาษาอังกฤษ ซึ่งแปลว่า วิทยาศาสตร์นั้น มาจากภาษาลาติน คำว่า scientia ซึ่งหมายความว่า ความรู้ ในคริสต์ศตวรรษที่ 17 ฟรานซิส เบคอนได้พยายามคิดค้นวิธีมาตรฐานในการอุปนัย เพื่อนำมาใช้สร้างทฤษฎีหรือกฎต่างๆ ทางวิทยาศาสตร์จากข้อมูลที่ทดลองหรือสังเกตได้จากธรรมชาติ
 

ภาพกิจกรรมเนื่องในวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ 

กิจกรรมวันงานวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ 2554
 
กิจกรรมวันงานวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ 2554
 
 
ร่วมกิจกรรมวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ2554 กันดารานักแสดง
 
ร่วมกิจกรรมวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติกันดารานักแสดง
 
วัตถุประสงค์ของการจัดงานวันสัปดาห์วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ 2554
1. เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติและพระปรีชาสามารถทางด้านวิทยาศาสตร์ของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว อันเป็น"พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย" ในวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ
2. เพื่อเป็นการส่งเสริมและเผยแพร่ผลงานการค้นคว้าวิจัยทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งมีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการพัฒนาประเทศ
3. เพื่อสนับสนุนให้กำลังใจและโอกาสแก่นักวิจัย นักประดิษฐ์ ได้แสดงผลงานต่อสาธารณชน
4. เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่าภาครัฐและเอกชนในการนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปใช้ในการพัฒนาประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ
5. เพื่อเสริมสร้างบรรยากาศทางวิทยาศาสตร์ อันเป็นวิถีทางหนึ่งของการแก้ปัญหาการขาดแคลนกำลังคนทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
 
        ในงานสัปดาห์ วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ 2554 ได้มีการจัดกิจกรรมทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมากมาย เช่น นิทรรศการ ผลงานวิจัย สิ่งประดิษฐ์ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การอภิปรายทางวิชาการ การตอบปัญหาทางวิทยาศาสตร์ การประกวดการแข่งขันต่าง ๆ เช่น โครงการทางวิทยาศาสตร์และสื่อการสอนวิทยาศาสตร์ เป็นต้น ก็ล้วนถูกนมาแสดงในวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติทั้งสิ้น
 
        ในการจัดงาน สัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ 2554 ได้มีการมอบรางวัลให้แก่ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นนักวิทยาศาสตร์ดี เด่นในสาขาวิชาต่าง ๆ โดยจะทำพิธีมอบรางวัลเชิดชูเกียรติในวันที่ 18 สิงหาคม ของทุกปี การจัดงาน สัปดาห์วิทยาศาสตร์ นับได้ว่ามีส่วนที่จะช่วยกระตุ้นให้ประชาชนคนไทย ได้ตระหนักถึงความสำคัญของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาประเทศให้ เจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้น

ข่าวสาร

‘เพรียวพันธ์’สั่งเทียบดีเอ็นเอ เจ้าอาวาสยืนยันเหยื่อพายุเกย์ แฉยังมีอีก4วัด200ศพฝังปี53

“พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์” ผบช.กมค.เดินหน้าลุยพิสูจน์ความจริง กรณีศพนิรนามนับร้อยศพถูกลำเลียงมากระจายฝังไว้ตามวัดต่างๆในพื้นที่ อ.แกลง เมืองระยอง รวม 169 ศพ ระบุรับคำสั่งตรงจากรอง ผบ.ตร. “พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์” และ รมช.คมนาคม “พล.ต.ท.ชัจจ์  กุลดิลก”  ให้มาพิสูจน์ความจริง  เพราะอาจจะโยงไปถึงการหายตัวไปอย่างลึกลับของ “51 แนวร่วม นปช.” จากเหตุการณ์ความไม่สงบและสลายการชุมนุมเมื่อปี 53 โดยศพถูกแยกฝังไว้ 3 วัด สั่งอายัดไว้รอขุดขึ้นมาตรวจเทียบดีเอ็นเอ ขณะที่สมาคมที่นำศพมาฝังไว้ระบุเป็นศพเหยื่อพายุเกย์ที่ จ.ชุมพร เมื่อปี 2532 นำมาฝังไว้เพื่อรอพิธีทำบุญล้างป่าช้าในปี 2555

หลังจากที่กลุ่ม นปช.เคยประกาศบนเวทีการปราศรัยหลายต่อหลายครั้ง ถึงการหายตัวไปอย่างลึกลับของแนวร่วม นปช.กว่า 51 ราย ในเหตุการณ์สลายการชุมนุมทั้งที่สี่แยกคอกวัว แยกราชประสงค์ และบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง ในสมัยรัฐบาลที่มีนายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมทั้งระบุว่า ศพบางส่วนถูกนำไปฝังไว้ในพื้นที่ จ.ระยองนั้น ล่าสุดมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวแล้ว โดยเมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 18 ส.ค. พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์  ผบช. สำนักงานกฎหมายและคดี (กมค.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชยุต มารยาทตร์ ผกก. กลุ่มงานคดีแพ่ง กองคดีปกครองและคดีแพ่ง สตช. พ.ต.ท.นาวิน ธีรวิทย์ รอง ผกก.สส.สภ.บ้านกร่ำ อ.แกลง จ.ระยอง นายบัญญัติ เศียรเขียว ปลัดป้องกันอำเภอแกลง และนายระพินทร์ พรานนท์สถิต แกนนำคนเสื้อแดงจังหวัดระยอง พร้อมแนวร่วมกลุ่ม นปช.กว่า 50 คน เดินทางไปที่วัดคลองตากวา หมู่ 1 ต.ชากพง อ.แกลง จ.ระยอง ซึ่งเป็น 1 ใน 3 วัดที่มีข่าวว่าใช้เป็นที่ฝังศพนิรนามนับร้อยศพ

ทั้งนี้ พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.กมค. ได้สอบถามรายละเอียดจากพระอธิการวิรัตน์ อติวีโร เจ้าอาวาส ยืนยันว่ามีศพนิรนามถูกนำมาฝังไว้จริง โดยเมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่จากสมาคมพุทธศาสตร์สงเคราะห์อำเภอแกลง จ.ระยอง มาติดต่อแจ้งความประสงค์ว่าจะนำศพไร้ญาติที่เสียชีวิตจากพายุเกย์พัดถล่มเมื่อวันที่ 4 พ.ย. 2532 ในพื้นที่ จ.ชุมพรมาฝังไว้ชั่วคราว เนื่องจากได้รับการประสานจากสมาคมพุทธประทีป จ.ชุมพร ซึ่งเก็บศพไร้ญาติไว้นานแล้ว ให้นำมาฝังไว้ที่ อ.แกลง จ.ระยอง ชั่วคราว เนื่องจากสถานที่เก็บศพของมูลนิธิฯใน จ.ชุมพร มีไม่เพียงพอ ทางสมาคมพุทธศาสตร์ฯจึงอำนวยความสะดวกใช้รถพ่วง 18 ล้อบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ไปลำเลียงศพไร้ญาติ ที่ปัจจุบันเหลือแต่โครงกระดูกบรรจุใส่โลงนำมาฝากไว้ตามวัดต่างๆในพื้นที่ อ.แกลง จ.ระยอง เพื่อรอพิธีทำบุญล้างป่าช้าใหญ่ในปี 2555 สำหรับวัดคลองตากวารับฝากไว้ 72 ศพ โดยใช้รถแบ็กโฮขุดหลุมฝังไว้รวมกันริมถนนหน้าวัด

จากนั้นคณะของ พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.กมค. เดินทางไปตรวจสอบหลุมฝังศพไร้ญาติตามที่ระบุไว้ พบว่าเป็นพื้นที่ป่าโปร่ง ลักษณะหลุมถูกขุดลึกประมาณ 2 เมตร ยาวประมาณ 500 เมตร ก่อนจะนำโลงบรรจุกระดูกทั้ง 72 ศพ ลงไปฝังเรียงกันไว้เป็นแถวยาวหน้ากระดาน จึงสั่งอายัดศพทั้งหมดและปิดกั้นพื้นที่ห้ามบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในจุดที่มีการฝังศพดังกล่าว

พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.กมค. เผยถึงที่มาของการบุกอายัดศพไร้ญาติครั้งนี้ว่า ได้รับคำสั่งจาก พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รอง ผบ.ตร. และการประสานจาก พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รมช.คมนาคม ให้เข้ามาตรวจสอบในพื้นที่ อ.แกลง จ.ระยอง หลังมีกระแสข่าวว่าอาจจะมีศพแนวร่วม นปช.บางส่วนถูกนำมาฝังไว้ จึงเดินทางมาตรวจสอบข้อเท็จจริง เบื้องต้นได้สั่งอายัดศพทั้งหมดไว้ก่อน โดยในวันที่ 19 ส.ค. จะขุดศพทั้งหมดขึ้นมาตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอ เปรียบเทียบกับญาติของแนวร่วม นปช.ที่สูญหายไป ขณะเดียวกันก็จะไปตรวจสอบอีก 4 วัดในพื้นที่ อ.แกลง ซึ่งรายงานข่าวระบุว่าใช้เป็นที่ฝังศพไร้ญาติอีกกว่า 200 ศพ ตั้งแต่เดือน ส.ค.53 ด้วย โดยจะอายัดและขุดศพขึ้นมาตรวจสอบทั้งหมด เพื่อที่ทุกอย่างจะได้กระจ่างชัดเจน

จากนั้นคณะของ พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.กมค. ได้เดินทางเข้าไปตรวจสอบอีก 2 วัด ประกอบด้วย วัดห้วยยาง หมู่ 3 ต.ห้วยยาง อ.แกลง โดยมีพระครูสังฆรักษ์ วุฑฒิสาโร เจ้าอาวาส พาไปตรวจดูหลุมศพไร้ญาติที่ถูกนำมาฝังไว้จำนวน 65 ศพ พร้อมยืนยันตรงกับเจ้าอาวาสวัดคลองตากวาระบุว่ามีเจ้าหน้าที่ของสมาคมพุทธศาสตร์ฯนำมาฝากเอาไว้ และอีกจุดที่วัดสมอโพรง หมู่ 1 ต.ชากพง อ.แกลง จ.ระยอง มีพระครูกิตติโสภณพิพัฒน์ เป็นเจ้าอาวาส ระบุว่ามีการนำศพไร้ญาติมาฝังไว้อีก 32 ศพ รวมเป็นศพไร้ญาติทั้งหมด 169 ศพ จึงสั่งอายัดไว้ทั้งหมดเพื่อรอการตรวจสอบอย่างเป็นทางการในวันที่ 19 ส.ค.

หลังตรวจสอบครบหมดทั้ง 3 วัดแล้ว พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.กมค.ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.นาวิน ธีรวิทย์ รอง ผกก.สส.สภ.บ้านกร่ำ สอบปากคำเจ้าอาวาสวัดทั้ง 3 แห่งไว้เป็นหลักฐาน และให้ติดตามตัวเจ้าหน้าที่ของสมาคมพุทธศาสตร์ฯที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำทั้งหมดในวันที่ 19 ส.ค. พร้อมๆกับการขุดศพที่ฝังไว้มาตรวจเก็บหลักฐานไปตรวจเทียบดีเอ็นเอกับญาติแนวร่วม นปช.ที่หายตัวไปกว่า 50 ราย

ด้านนายวิเชียร แสงวงศ์กิจ รองนายกสมาคมพุทธศาสตร์สงเคราะห์ อ.แกลง  เผยว่า ได้รับการประสานมาจากสมาคมพุทธประทีปจังหวัดชุมพร ให้ช่วยขนย้ายศพไร้ญาติที่เสียชีวิตจากฤทธิ์พายุเกย์พัดถล่มเมื่อวันที่ 4 พ.ย.2532 ซึ่งทางสมาคมพุทธประทีปฯเก็บรักษาไว้ นำมาฝังไว้ที่สุสานเขาดิน ต.ทุ่งควายกิน อ.แกลง จ.ระยอง แต่เมื่อมาถึงก็พบว่าทางสุสานอยู่ระหว่างการปรับปรุงพื้นที่ ทำให้ไม่มีสถานที่เพียงพอที่จะรับศพไร้ญาติทั้ง 169 ศพไว้ได้ จึงต้องกระจายไปฝังไว้ตามวัดต่างๆในพื้นที่เป็นการชั่วคราว  ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าศพทั้งหมดเสียชีวิตจากพายุเกย์ ศพเหลือแต่โครงกระดูก มีผ้าขาวห่อไว้ก่อนบรรจุใส่โลง ไม่ใช่ศพแนวร่วม นปช.ที่หายไปอย่างแน่นอน

ต่อมาเมื่อช่วงเย็นวันเดียวกัน พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตรวจพบศพปริศนา 169 ศพ ที่ จ.ระยอง ว่า พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.กมค. และ พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผบช.ภ.2 ได้ร่วมกันตรวจสอบศพที่ถูกฝังไว้ที่วัด 3 แห่ง ในพื้นที่ จ.ระยอง เนื่องจากมีข้อมูลพบศพจำนวนมาก ไม่รู้ว่าจะเกี่ยวข้องคดีใดหรือไม่  เบื้องต้นพบศพในวัด 3 แห่ง ในพื้นที่ อ.แกลง จ.ระยอง รวม 169 ศพ สอบถามเจ้าอาวาสทั้ง 3 วัด บอกตรงกันว่าศพที่ฝังเป็นศพผู้เสียชีวิตที่มีเจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทธศาสตร์ฯนำมาฝากไว้ที่วัด โดยอ้างว่านำมาจากจังหวัดชุมพร จะฝากศพไว้ 2 ปี แล้วจะรับศพไปประกอบพิธีบำเพ็ญกุศล ขณะนี้ได้มีคำสั่งอายัดศพทั้งหมดไว้เพื่อให้ สพฐ.ตร.ตรวจเปรียบเทียบหาดีเอ็นเอว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องคดีใดหรือไม่

ทั้งนี้ จากรายงานของศูนย์ข้อมูลคนหายเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ มูลนิธิกระจกเงา เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. ที่ผ่านมาระบุว่า นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบและสลายการชุมนุมตั้งแต่วันที่ 19 พ.ค.53-7 มิ.ย.53 มีกลุ่มแนวร่วม นปช.หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยรวม 51 ราย เป็นชาย 48 ราย และหญิงอีก 3 ราย ซึ่งแกนนำนปช.ได้เคยออกมาป่าวประกาศเรียกร้องให้รัฐบาลที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ติดตามค้นหามาตลอด แต่ไม่มีความคืบหน้า กระทั่งเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย ที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์  ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี จึงมีการเร่งรัดให้พิสูจน์ข้อเท็จจริงดังกล่าว

วันอาทิตย์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ข่าวสารวันที่15 สิงหาคม 2554

นายชลิต ดำรงศักดิ์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า แนวทางการพร่องน้ำจากทางเหนือของแม่น้ำเจ้าพระยา โดยจะจัดการจราจรน้ำออกทางฝั่งซ้ายและขวา โดยวันที่ 21-23 ส.ค.นี้ น้ำทะเล จะอยู่ในระดับต่ำมาก จึงต้องเร่งระบายน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ออกไปให้ได้มากที่สุด จะทำให้ผลกระทบน้ำจะมีน้อยลง แต่อย่างไรก็ตาม ก็ต้องให้ระวังพื้นที่ราบต่ำ และพื้นที่ริมตลิ่ง จะต้องโดนผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทางกรมชลฯ จึงออกประกาศเตือนไปแล้ว เช่น บางบาล โผงเผง ส่วนวิธีการบริหารจัดการน้ำนั้น โดยใช้หลัก คลองส่งน้ำที่มีกระจายตามพื้นที่ต่าง ๆ โดยจะต้องไม่มีผลกระทบกับชาวบ้านด้วย หรือ ช่วงที่ระบายน้ำลงทะเลได้เร็ว ก็จะเร่งทันทีเช่นกัน
ส่วนที่ จ.สุโขทัย ในการแก้ปัญหาน้ำท่วมยั่งยืน ต้องศึกษากันอีกครั้ง แต่โดยศักยภาพของแม่น้ำยมนั้น มีน้ำปริมาณมาก แต่เมื่อผ่านมา จ.สุโขทัย ทางน้ำแคบมาก จึงเกิดปัญหาขึ้น ส่วนการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น อีกครั้งนั้น คงต้องมาพูดจากันโดยละเอียดอีกครั้ง ส่วนลำน้ำอื่นนั้น ไม่มีปัญหา เพราะมีเครื่องมือที่เป็นตัวช่วยค่อนข้างมาก เหลือแค่ล้ำน้ำยม ที่ถือว่าเป็นปัญหาอยู่

วันอังคารที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ข่าสารวันนี้

แม่ฉุนลูกสาว ขัดคำสั่งคุยผู้ชาย คว้าปืนไล่ยิงสาหัส
แม่ฉุนลูกสาว ขัดคำสั่งคุยผู้ชาย คว้าปืนไล่ยิงสาหัส
แม่วัย 58 ปี ชาวขอนแก่น ใช้อาวุธปืนยิงลูกสาววัย 37 ปี บาดเจ็บสาหัส หลังสั่งห้ามคุยกับผู้ชายที่มาติดพัน แต่ลูกสาวไม่เชื่อ
(10 ส.ค.) ตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น เข้าตรวจสอบร้านขายก๋วยเตี๋ยวเป็ดเยาวราช ภายในสถานีขนส่งเทศบาลนครขอนแก่น หลังเกิดเหตุนางทัศนีย์ เต็งเจริญกุล อายุ 58 ปี ใช้อาวุธปืนขนาด .38 ยิง น.ส.สุนันท์ เศษแสงโยธิน ลูกสาว บาดเจ็บสาหัส ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลขอนแก่น ล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว ตำรวจจึงควบคุมตัวนางทัศนีย์ไปสอบสวนดำเนินคดี
จากการสอบสวนทราบว่า นางทัศนีย์ใช้อาวุธปืนไล่ยิง น.ส.สุนันท์ อย่างบ้าคลั่ง นอกจากนี้ กระสุนปืนยังไปถูกรถโดยสารประจำทางสายนครราชสีมา-ขอนแก่น เสียหาย ส่วนสาเหตุเกิดจากนางทัศนีย์ไม่พอใจลูกสาวมีชายหนุ่มมาติดพัน และพยายามสั่งห้ามแต่ลูกสาวไม่เชื่อฟัง จึงใช้อาวุธปืนไล่ยิงดังกล่าว. - สำนักข่าวไทย

วันจันทร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ข่าวสาร


ประวัติการทำงาน
มีนาคม 2549 : ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในประเทศไทยและได้รับการจัดอันดับจากคณะกรรมการบรรษัทภิบาล ของตลาดหลักทรัพย์ ให้อยู่ในกลุ่ม”ดีเลิศ” ของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ภาพลักษณ์และสินค้า
ประสบความสำเร็จในการ Re-Branding จากภาพลักษณ์บริษัทเทเลคอม เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างชัดเจน รวมทั้งปรับรูปแบบสินค้าและบริการของบริษัทให้ตรงต่อ ความต้องการของลูกค้าซึ่งสามารถทำให้ผลประกอบการของบริษัทเพิ่มขึ้นถึง 30% อย่างต่อเนื่องทุกปี ประสบความสำเร็จในการสร้างวัฒนธรรมองค์กร ส่งเสริมให้พนักงานมีพฤติกรรมที่สอดคล้องกับค่านิยม และนำค่านิยมสู่การปฏิบัติงานทุกจุดบริการ การบริหารจัดการ
ปรับโครงสร้างองค์กรให้มีความเหมาะสมต่อการดำเนินธุรกิจ เกิดความคล่องตัวในการบริหารจัดการ เปิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุดต่อบริษัท
ปรับปรุงและพัฒนากระบวนการปฏิบัติงานให้สอดคล้องกับการเติบโตของธุรกิจ เช่น ระบบ SC System (กระบวนการก่อสร้างและต้นทุนการก่อสร้าง) กระบวนการ CRM และกระบวนการบริการ
ประสบการณอื่นๆ : มีประสบการณ์ในธุรกิจบริหารทรัพย์สิน และธุรกิจกอล์ฟ
2545 : ประธานกรรมการ บริษัท แอ็ดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)
2544 : กรรมการผู้อำนวยการอาวุโส-สายงานการวางแผนธุรกิจโทรคมนาคมไร้สาย บริษัท แอ็ดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)
2542 : กรรมการผู้อำนวยการ – สายงานปฏิบัติการ สินค้าและบริการ บริษัท แอ็ดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)

วันแม่แห่งชาติ

 ประวัติวันแม่

         
แต่เดิมนั้น วันแม่ของชาติได้กำหนดเอาไว้วันที่ 15 เมษายนของทุก ๆ ปี
ทั้งนี้เป็นไปตามมติของคณะรัฐมนตรีประกาศรับรอง เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2493
ซึ่งได้พิจารณาเห็นว่าการจัดงานวันแม่ของสำนักวัฒนธรรมฝ่ายหญิง
สภาวัฒนธรรมแห่งชาติผู้รับมอบหมายให้จัดงาน วันแม่ มาตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน พ.ศ.2493
 เป็นครั้งแรกเป็นต้นมานั้นได้รับความสำเร็จด้วยดี ด้วยประชาชนให้การสนับสนุน
 จนสามารถขยายขอบข่ายของงานให้กว้างขวางออกไป 
   มีการจัดพิธีกรรมทางพระพุทธศาสนา การประกวดคำขวัญวันแม่
การประกวดแม่ของชาติ เพื่อให้เกียรติและตระหนักในความ สำคัญของแม่
และเพื่อเพิ่มความสำคัญของวันแม่ให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป ด้วยเหตุนี้งานวันแม่
จึงเป็นวันแม่ประจำปีของชาติตามประกาศของรัฐบาลฯพณฯ จอมพล
ป.พิบูลสงคราม แต่โดยทั่วไปเรียกกันว่าวัน แม่ของชาติ 
  ต่อมาถึง พ.ศ.2519 ทางราชการได้เปลี่ยนใหม่ให้ถือเอา
วันเสด็จพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ คือ
 วันที่ 12 สิงหาคม เป็นวันแม่แห่งชาติ เริ่มในปี พ.ศ.2519 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน
 กิจกรรมต่าง ๆ ที่ควรปฏิบัติในวันแม่แห่งชาติ

         
1. ประดับธงชาติตามอาคารบ้านเรือน

          2. จัดกิจกรรมต่างๆ เกี่ยวกับวันแม่ เช่น การจัดนิทรรศการ  

          3. จัดกิจกรรมเกี่ยวกับการบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ ทำบุญใส่บาตรอุทิศส่วนกุศล เพื่อรำลึกถึงพระคุณของแม่

          4. นำพวงมาลัยดอกมะลิไปกราบขอพรจากแม่
 การจัดงานวันแม่แห่งชาติในประเทศไทย
งานวันแม่จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2486 ณ.สวนอัมพร โดยกระทรวงสาธารณสุข แต่ช่วงนั้นเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 งานวันแม่ในปีต่อมาจึงต้องงดไป เมื่อวิกฤติสงครามสงบลง หลายหน่วยงานได้พยายามให้มีวันแม่ขึ้นมาอีก แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร และมีการเปลี่ยนกำหนดวันแม่ไปหลายครั้ง ต่อมาวันแม่ที่รัฐบาลรับรอง คือวันที่ 15 เมษายน โดยเริ่มจัดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2493 แต่ก็ต้องหยุดลงอีกในหลายปีต่อมา เนื่องจากกระทรวงวัฒนธรรมถูกยุบไป ส่งผลให้สภาวัฒนธรรมแห่งชาติซึ่งรับหน้าที่จัดงานวันแม่ขาดผู้สนับสนุน

          ต่อมาสมาคมครูคาทอลิกแห่งประเทศไทย ได้จัดงานวันแม่ขึ้นอีกครั้ง ในวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2515 แต่จัดได้เพียงปีเดียวเท่านั้น จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2519 คณะกรรมการอำนวยการสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จึงได้กำหนดวันแม่ขึ้นใหม่ให้เป็นวันที่แน่นอน โดยถือเอาวันเสด็จพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ วันที่ 12 สิงหาคมเป็นวันแม่แห่งชาติ
 สัญลักษณ์ที่ใช้ในวันแม่
 สัญลักษณ์ที่ใช้ในวันแม่คือ ดอกมะลิ ซึ่งมีสีขาวบริสุทธิ์ ส่งกลิ่นหอมไปไกลและหอมได้นาน อีกทั้งยังออกดอกได้ตลอดทั้งปี เปรียบได้กับความรักอันบริสุทธิ์ของแม่ที่มีต่อลูกไม่มีวันเสื่อมคลาย
 คำขวัญวันเเม่ ประจำปี พ.ศ.2553

         
"แผ่นดินนี้ แม่ของลูก ใช้ปลูกข้าว กี่แสนก้าว ที่เดินซ้ำ ย่ำหว่านไถ บำรุงดิน จนอุดม สมดังใจ หวังนาไทย เป็นของไทย ไปนิรันดร์"
 เพลงที่ใช้ในวันเเม่
ค่าน้ำนม คือ เพลงอย่างเป็นทางการที่ใช้ในงานวันเเม่เเห่งชาติ เเต่งขึ้นโดย อาจารย์ สมยศ ทัศนพันธ์ ได้เรียบเรียงบทเพลงที่เรียกได้ว่า ขึ้นหิ้งอมตะ และเป็นงานเพลงชิ้นเอก ซึ่งได้ฟังเมื่อไร เป็นต้องหวนระลึกถึงบุญคุณของเเม่เเละวันคืนเก่าๆ ของวิถีไทยในสมัยก่อน

          เนื้อเพลง นอกจากจะให้เราระลึกถึงพระคุณเเม่เเล้วยังทำให้เรามองเห็นขนบดั้งเดิมตามวิถีไทย หลายอย่างจากเนื้อเพลง เช่นการศึกษาของผู้ชายไทยสมัยก่อนนั้น มักจะอยู่ในวัดวาอาราม ซึ่งเป็นแหล่งสอนสั่งความรู้ ทางโลก อ่านออกเขียนได้ และ ทางธรรม อันได้แก่ การถือศีล และยิดมั่นในพระรัตนไตร นอกจากนั้น ยังมีความเชื่อกันอีกว่า หากลูกชายบ้านใหน ได้บวชเรียน ก็จะส่งแผ่ อานิสงค์ไปให้กับพ่อแม่ ได้เกาะชายผ้าเหลืองไปสู่ที่ดีๆ เมื่อถึงกาลแตกดับ

         
ท่วงทำนองเสนาะโสต และ ทุ่มเย็น กับคำร้องที่ตรงไป ตรงมา ชวนให้นึกภาพตามได้ไม่ยาก แม้แต่เด็กเล็กๆ จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่ใครฟังเพลงนี้แล้วจะต้องหลั่งน้ำตาให้กับความซาบซึ้งแห่งรักที่แม่ มีให้เรา...

          เพลง ค่าน้ำนม

         
แม่นี้มีบุญคุณอันใหญ่หลวง ที่เฝ้าหวงห่วงลูกแต่หลังเมื่อยังนอนเปล แม่เราเฝ้าโอละเห่ กล่อมลูกน้อยนอนเปลไม่ห่างหันเหไปจนไกล

          แต่เล็กจนโตโอ้แม่ถนอม แม่ผ่ายผอมย่อมเกิดแต่รักลูกปักดวงใจ เติบโตโอ้เล็กจนใหญ่ นี่แหละหนาอะไรมิใช่ใดหนาเพราะค่าน้ำนม 

          ควรคิดพินิจให้ดี ค่าน้ำนมแม่นี้จะมีอะไรเหมาะสม โอ้ว่าแม่จ๋าลูกคิดถึงค่าน้ำนม เลือดในอกผสมกลั่นเป็นน้ำนมให้ลูกดื่มกิน 

          ค่าน้ำนมควรชวนให้ลูกฝัง แต่เมื่อหลังเปรียบดังผืนฟ้าหนักกว่าแผ่นดิน บวชเรียนพากเพียรจนสิ้น หยดหนึ่งน้ำนมกินทดแทนไม่สิ้นพระคุณแม่เอย
( ซ้ำ *, ** )

วันจันทร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ข่าวสาร 22/2/2554

ลูกกัดดาฟี' กร้าว ฆ่าเป็นพัน ถ้าไม่ยุติประท้วง
จะยิงจนกระสุนนัดสุดท้าย ตอนนี้ยอดตายแล้ว233ศพทูตลิเบียลาออกต่อต้านรัฐ

กระแสประท้วงโค่นเผด็จการ เรียกร้องประชาธิปไตยในดินแดนอาหรับยังระอุ โดยเฉพาะที่ลิเบีย นับวันยิ่งเดือด หลังรัฐบาล กัดดาฟีใช้ทหารออกปราบไล่ยิงผู้ชุมนุมตายแล้ว 233 ศพ เจ็บเพียบแม้แต่ทูตลิเบียในหลายประเทศยังทนไม่ได้  ประกาศลาออกมาร่วมประท้วงรัฐบาลตัวเอง เหตุจ้างทหารต่างชาติมาเด็ดหัวคนในชาติ  ขณะที่ครอบครัวแรงงานไทยเผยสถานการณ์ในพื้นที่สุดอันตราย ผู้ประท้วงเตรียมเผาเมือง ระบุแม้จะมีเครื่องบินไปรับกลับ แต่ก็ต้องเสี่ยงชีวิตจากที่พักไปสนามบิน ขณะเดียวกัน อีกหลายสิบประเทศการเรียกร้องให้เปลี่ยนแปลงทางการเมืองยังคุ และลุกลามสู่ประเทศอื่นๆไม่หยุด

สำนักข่าวต่างประเทศเกาะติดสถานการณ์ประชาชนในประเทศแถบแอฟริกาเหนือและตะวันออกกลาง ออกมาชุมนุมประท้วงขับไล่รัฐบาลและเรียกร้องความเปลี่ยนแปลงซึ่งขณะนี้มีอยู่ถึง 14 ประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ชาวลิเบียลุกฮือประท้วงขับไล่โค่นอำนาจพันเอกโมอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำผูกขาดอำนาจปกครองประเทศลิเบียมานานถึง 42 ปี ถือว่าสถานการณ์รุนแรงที่สุด โดยตลอดช่วงการประท้วงโค่นอำนาจนายกัดดาฟีที่เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา จนถึงวันที่ 21 ก.พ. มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 233 ราย บาดเจ็บจำนวนมาก โดยมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของลิเบียใช้อาวุธปืนนานาชนิดกราดยิงเข้าใส่กลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลอย่างไร้ความปรานี ไม่เว้นแม้กระทั่งกลุ่มคนผู้ร่วมแสดงความอาลัยในพิธีศพเหยื่อเคราะห์ร้ายที่เสียชีวิตจากการประท้วงต่อต้านรัฐบาล โดยมีรายงานว่าผู้เสียชีวิต เฉพาะในวันที่ 2 ของการประท้วงรัฐบาล ที่บริเวณเมืองเบนกาซี เมืองใหญ่ อันดับ 2 ของประเทศ เพียงวันเดียวมากกว่า 60 ศพ

นอกจากนี้ นายซาอิฟ อัล-อิสลาม กัดดาฟี ลูกชายนายกัดดาฟี ยังได้ออกมากล่าวสุนทรพจน์ผ่านทางโทรทัศน์แห่งชาติเป็นครั้งแรก เมื่อคืนวันที่ 20 ก.พ. ตามเวลาท้องถิ่น โดยประกาศกร้าวว่าลิเบียอาจต้องเผชิญสภาพสงครามกลางเมือง ถ้ากลุ่มผู้ประท้วงรัฐบาลไม่ยอมรับข้อเสนอปฏิรูปการเมืองจากฝ่ายรัฐบาล

"ลิเบียกำลังเข้าสู่ทางแยกสำคัญ ถ้าวันนี้พวกเราทุกคนไม่ยอมรับการปฏิรูป ผู้คนล้มตายจะไม่ใช่แค่ 84 ศพ แต่อาจเป็นหลายพันคน แม่น้ำสายเลือดจะไหลท่วมท้น ทั้งประเทศ นี่คือการเคลื่อนไหวของฝ่ายค้านหวังโค่นอำนาจรัฐบาล คือภัยคุกคามเอกภาพของประเทศ รัฐบาลจำเป็นต้องใช้อาวุธ เราจะสู้จนหมดกระสุนปืนนัดสุดท้าย หรือเหลือทหารคนสุดท้าย แม้ว่าฝ่ายรัฐบาลจะเป็นผู้หญิงก็ตาม ใครก็ตามที่ถืออาวุธจะต้องถูกฆ่า ลิเบียไม่ใช่อียิปต์ ไม่ใช่ตูนิเซีย ความพยายามปฏิวัติรัฐบาลผ่านเฟซบุ๊กต้องถูกต่อต้านอย่างรุนแรง เราจะไม่ปล่อยลิเบียให้ตกเป็นของอิตาลี หรือของชาวเติร์ก" นายซาอิฟกล่าว

ข่าวแจ้งว่า สถานการณ์ประท้วงก่อจลาจลในลิเบียยังลุกลามต่อเนื่อง มีรายงานกลุ่มคนราว 500 คน ยกกำลังบุกปล้นสะดมพื้นที่ก่อสร้างของบริษัทเกาหลีใต้ ใกล้กรุงตริโปลี ทำร้ายแรงงานชาวบังกลาเทศบาดเจ็บ 15 ราย ชาวเกาหลีใต้ บาดเจ็บ 3 ราย ทั้งยังมีเหตุปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ต่อต้านและสนับสนุนพันเอก
กัดดาฟีในหลายพื้นที่ทั่วกรุงตริโปลี นอกจากนั้นยังมีรายงานว่า อาคารที่ทำการของรัฐบาลหลายแห่งถูกเผา กลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลยังบุกทำลายอาคารสถานีโทรทัศน์และสถานีวิทยุของรัฐหลายแห่ง

ขณะเดียวกัน มีรายงานว่านายอับเดล โมเนอิม อัล-โฮนี ทูตพิเศษของลิเบียประจำสันนิบาตชาติอาหรับ 22 ประเทศ ประกาศลาออกจากตำแหน่ง เพื่อร่วมอุดมการณ์กับกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลนายกัดดาฟี เช่นเดียวกับนายฮุสเซน ซาดิค อัล มุสราตี ทูตลิเบียประจำประเทศจีน และนายอาลี อัล-อิสซาวี ทูตลิเบียประจำอินเดีย ขอลาออกจากตำแหน่ง เพื่อประท้วงรัฐบาลลิเบียที่ใช้ความรุนแรงต่อประชาชน ทั้งยังยืมมือทหารรับจ้างต่างชาติเข้ามาเข่นฆ่าชาวลิเบียถึงในประเทศ

ขณะที่ปฏิกิริยาจากนานาชาติต่อสถานการณ์รุนแรงในลิเบีย รัฐบาลสหรัฐอเมริกาแถลงเรียกร้องให้รัฐบาลลิเบียหยุดใช้ความรุนแรงปราบปรามประชาชนผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตย ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐฯอยู่ระหว่างวิเคราะห์คำพูดท่าทีของลูกชายนายกัดดาฟีว่ามีความจริงใจต่อการปฏิรูปการเมืองการปกครองมากน้อยเพียงใด ส่วนสหภาพยุโรปจัดประชุม รมว.ต่างประเทศ ร่วมประณามรัฐบาลลิเบียใช้ความรุนแรงกดขี่ปราบปรามผู้ประท้วงรัฐบาล ขณะที่รัฐบาลฝรั่งเศสเรียกร้องประชาคมโลกให้ช่วยหันเหสภาพสงครามกลางเมืองออกไปจากลิเบีย เช่นเดียวกับนายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ เรียกร้องยุติความรุนแรงในลิเบีย และให้รัฐบาลเคารพสิทธิเสรีภาพประชาชน ขณะเดียวกัน รัฐบาลนานาประเทศ ตั้งแต่สหรัฐฯ ออสเตรเลีย บราซิล ฟิลิปปินส์ และตูนิเซีย ต่างเตือนพลเมืองของตนให้หลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าลิเบีย รวมถึงระมัดระวังการเดินเข้าประเทศแถบตะวัน–ออกกลางและทวีปแอฟริกาเหนือ ซึ่งมีปัญหาการประท้วงรัฐบาล

นอกจากนี้ วันเดียวกัน ครอบครัวของแรงงานไทยในลิเบียออกมาเปิดเผยถึงสภาพความเป็นอยู่ของคนไทยในลิเบียขณะนี้ว่า มีความเป็นอยู่ยากลำบากและเสี่ยงอันตราย โดยนางอุบลรัตน์ เอมอยู่ อายุ 40 ปี ชาวตำบลตากออก อ.บ้านตาก จ.ตาก ภรรยาคนงานในประเทศลิเบีย กล่าวว่า สามีไปทำงานได้ประมาณ 6 เดือน ขณะนี้ติดต่อทางโทรศัพท์ยากมาก ล่าสุดสามีบอกว่าออกไปไหนไม่ได้มีแต่อันตราย ต้องอยู่แต่ในแคมป์ การกินอยู่ลำบากมาก ส่วนนางจันทร์วัน ราชสอด อายุ 47 ปี ชาวตำบลตากออกเช่นกัน เปิดเผยว่า สามีชื่อนายเทียน ราชสอด อายุ 45 ปี ไปทำงานที่ประเทศดังกล่าวพร้อมกับสามีของนางอุบลรัตน์ ตอนนี้อยากให้สามีกลับประเทศไทย เพราะทราบว่าอันตรายมาก ด้านนางยุพิน ชัยชนะ อายุ 45 ปี กล่าวว่า สามีชื่อนายมงคล ชัยชนะ อายุ 38 ปี ไปทำงานเป็นหัวหน้าคนงาน ติดต่อกับสามีทราบว่า พื้นที่ที่อยู่อันตรายอย่างมาก เพราะผู้ประท้วงได้ราดน้ำมันเตรียมเผาเมือง และในคืนวันที่ 21 ก.พ.  จะมีเครื่องบิน 3 ลำ ไปรับที่สนามบินใกล้ที่ทำงาน แต่ทุกคนต้องเสี่ยงชีวิตวิ่งไปขึ้นเครื่องที่สนามบินไกล ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 3 กิโลเมตร

ส่วนสถานการณ์ความไม่สงบในอีกหลายประเทศ เช่น ในบาห์เรน ยังคงมีประชาชนปักหลักกางเต็นท์ประท้วงรัฐบาลบริเวณจัตุรัสเพิร์ล กลางกรุงมานามา หลังเหตุปะทะรุนแรงระหว่างผู้ประท้วงกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลทำให้มีผู้เสียชีวิต 7 ราย กระทั่งต่อมา ชีค ซัลมาน บิน ฮาหมัด อัล-คาลีฟา เจ้าชายแห่งราชวงศ์อัล-คาลีฟา แห่งบารห์เรน เร่งให้ทุกฝ่ายเจรจาไกล่เกลี่ย กระนั้น กลุ่ม ส.ส.ฝ่ายค้านยังต้องการให้เจ้าชายส่งสาส์น หรือแสดงสัญญาณที่ชัดเจนเรื่องการปฏิรูปการเมืองให้อำนาจประชาชนเลือกตั้งรัฐบาลโดยตรง รวมถึงปล่อยนักโทษการเมือง ก่อนตกลงร่วมโต๊ะเจรจากัน

เช่นเดียวกับเหตุวุ่นวายในจอร์แดน กษัตริย์อับดุลเลาะห์ที่ 2 แห่งจอร์แดน ทรงวอนให้รัฐบาลรีบปฏิรูปเพิ่มบทบาทบริหารประเทศกับประชาชน รวมถึงเพิ่มเสรี–ภาพทางการเมืองและเร่งปราบปรามคอรัปชัน "ให้เร็วและจริงจังจริงใจ" กระนั้น พระองค์ไม่ได้ตรัสถึงการลิดรอนอำนาจของพระองค์ที่มีต่อตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและคณะทำงานในสภา

ส่วนในเยเมน ประธานาธิบดี อาลี อับดุลเลาะห์ ซาเลห์ เสนอขอเจรจากับฝ่ายค้านที่เรียกร้องให้นายซาเลห์ ซึ่งเป็นพันธมิตรกับสหรัฐอเมริกา แต่กลับปกครองประเทศยากจนที่สุดในโลกอาหรับมานานถึง 32 ปีลาออกสถานเดียว ไม่สนใจคำมั่นสัญญาของนายซาเลห์ที่ว่าจะไม่ลงสมัครเลือกตั้งอีกใน 2 ปีข้างหน้า รวมถึงไม่ตั้งลูกชายสืบทอดอำนาจทางการเมือง

ขณะเดียวกัน การประท้วงในโมร็อกโก ถือเป็นประเทศล่าสุดในแอฟริกาเหนือ ที่ประชาชน 2,000-3,000 คน ชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาล รวมถึงการประท้วงในอีกหลายหัวเมือง เพื่อขอให้มีการปกครองระบอบประชาธิปไตยมากขึ้น โดยร้องตะโกนขอเปิดโอกาสให้ประชาชนในด้านเศรษฐกิจ ปฏิรูปการศึกษา บริการสุขอนามัยที่ดีขึ้น และแก้ปัญหาราคาสินค้าแพง อีกทั้งกดดันกษัตริย์โมฮัมเหม็ดที่ 6 ให้ทรงลดบทบาททางการเมือง แม้ภาพลักษณ์ของพระองค์ทรงเป็นนักปฏิรูป แต่ยังทรงกุมอำนาจในหน่วยงานรัฐอย่างเบ็ดเสร็จ

ขณะที่ ตูนิเซีย รัฐบาลชั่วคราว ได้ถามไปยังรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย เกี่ยวกับอาการป่วยของอดีตผู้นำตูนิเซีย นายซิเน เอล อาบิดีน เบน อาลี ซึ่งอยู่ในขั้นโคม่า โดยขอให้รัฐบาลซาอุดีอาระเบียส่งตัวนายเบน อา–ลี กลับประเทศเพื่อดำเนินคดี ทั้งที่รัฐบาลชั่วคราวของตูนิเซียเอง ยังถูกประชาชนออกมาเคลื่อนไหวประท้วงเรียกร้องให้เปลี่ยนรัฐบาล ขณะเดียวกัน มีเหตุประท้วงรัฐบาลในอีกหลายประเทศ ตั้งแต่โอมาน คูเวต อิหร่าน แอลจีเรีย ดาจิบูติ และซีเรีย ขณะที่สถานการณ์ประท้วงในอียิปต์เริ่มกลับสู่ภาวะปกติ ธนาคาร สถาบันการเงินและแหล่งท่องเที่ยวเริ่มเปิดให้บริการและรับนักท่องเที่ยวบ้างแล้ว แม้ยังมีการชุมนุมของคนกลุ่มเล็กๆ คอยติดตามท่าทีดำเนินการของรัฐบาลชั่วคราว

วันพุธที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ข่าววันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2554


ยิงจรวด-ปาระเบิดใส่ แต่ถูกตอบโต้จนถอย 'นัมฮง'ตวัดลิ้นกัดอีก

"ฮอร์ นัมฮง" ลิ้นลื่นได้อีก หันไปอ้อนอาเซียน  ร้องขอให้ส่งคณะผู้สังเกตการณ์ เข้าพื้นที่ปราสาทพระวิหาร จับตาดูการหยุดยิง หลังซัดไทยเมินคำสั่งยูเอ็นเอสซี  กองทัพบก แฉเขมรเหิมยิงลูกระเบิดใส่ไทยไม่หยุด หวังเจาะรั้วลวดหนามบุกชายแดนไทย ลั่นไทยไม่เคยยิงก่อน   ชี้ผู้นำทหาร   2   ฝ่ายคุยเข้าใจ หยุดยิง แต่ทหารระดับล่างไม่ฟัง ด้าน ผบ.ทหารสูงสุดติงเขมรเพื่อนบ้านที่ดีต้องหยุดยิง ยันไทยจำเป็นต้องโต้ตอบด้วยความปวดร้าว ลั่นทหารไทยมีวินัย

ภายหลังที่ฝ่ายเขมรเปิดฉากยิงถล่มใส่ทหารไทย จนเกิดการปะทะกันอีกระลอก เมื่อเช้ามืดวันที่ 15 ก.พ. ที่บริเวณภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เป็นเหตุให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บ 1 นาย ถูกนำตัวไปรักษาที่ รพ. สรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี ทำให้ฝ่ายทหารไทย ต้องเตรียมพร้อมเฝ้าระวังการโจมตีจากฝ่ายทหารกัมพูชาตลอดทั้งวัน แต่ก็ไม่มีเหตุการณ์ใดๆเกิดขึ้น โดยเหตุการณ์ ดังกล่าวเกิดขึ้นคล้อยหลังมติของยูเอ็นเอสซี ที่เมินคำร้องขอของกัมพูชาให้ส่งกองกำลังสันติภาพเข้ามาตรึงชายแดน ทั้งยังให้ไทย-กัมพูชาหยุดยิงถาวร แล้วเปิดการเจรจาแบบทวิภาคี   หาแนวทางสู่สันติภาพแก้ปัญหาพิพาทชายแดนของทั้ง 2 ประเทศ

ทหารไทยรุกคืบโจมตีกลับทหารเขมร

ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 16 ก.พ. ถึงสถานการณ์ ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ หลังทหารเขมรเหิมเปิดศึกปะทะไทยเย้ยมติยูเอ็นเอสซี เมื่อ เช้ามืดวันที่ 15 ก.พ.ว่า หลังจากที่ทหารกัมพูชาที่ประจำการบนภูมะเขือ ซึ่งเป็นบริเวณพื้นที่ทับซ้อน ได้ขว้างระเบิดพกประจำกายมายังทหารไทยที่วางแนวอยู่ตามแนวชายแดน และทหารไทยได้ใช้ปืนประจำกายยิงตอบโต้เป็นระยะตลอดคืน พร้อมยิงปืนใหญ่สนับสนุนไปอีก 3 นัด แต่ไม่มีการยิงโต้ตอบจากฝ่ายกัมพูชา กระทั่งเวลาประมาณ 03.00 น. วันที่ 16 ก.พ. กำลังทหารไทยได้รุกคืบเข้าโจมตีอย่างหนัก จนถึงเวลา 05.00 น. จึงถอนกำลังกลับโดยกำลังทหารไทยปลอดภัย   สำหรับสาเหตุทหารเขมรลอบโจมตีครั้งนี้ เนื่องจากกำลังพลในพื้นที่มีความหวาด ระแวง และช่วงกลางคืนทหารกัมพูชามักจะลาดตระเวนเข้ามาใกล้แนวเขตของทหารไทย พร้อมเปิดฉากยิงยั่วยุอยู่เสมอ

ตลาดช่องจอมคึกเขมรแห่ซื้อของ

ที่จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ อยู่ติดกับชุมชนโอร์เสม็ด ต.โอร์เสม็ด อ.สำโรง จ.อุดรมีชัยของกัมพูชา มีพ่อค้าแม่ค้าชาวเขมรเดินทางเข้ามาซื้อสินค้าที่ตลาดการค้าชายแดนฝั่งไทยตามปกติ แม้ว่าพื้นที่เขาพระวิหาร จ.ศรีสะเกษ จะยังมีการปะทะของทหารทั้ง 2 ประเทศก็ตาม และทางกัมพูชามีคำสั่งห้ามทหารและเจ้าหน้าที่ประจำด่านพกอาวุธอย่างเด็ดขาด   เพื่อไม่ให้ พ่อค้าแม่ค้าและนักท่องเที่ยว นักพนันชาวไทย หวั่นวิตกหรือหวาดกลัว อย่างไรก็ตาม กำลังทหารไทยยังวางแนวป้องกันตลอดแนวชายแดนตั้งแต่ช่องจอม ช่องกร่าง ปราสาทตาควาย ต.บักได ปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ โดยมีทหารพรานและทหารกองพล ร.6 กอง กำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 ร่วมด้วย เช่นเดียวกับฝ่ายกัมพูชา ทหาร 3 กองพัน จากกองพลน้อยที่ 42 ทหารภูมิภาคที่ 4 วางกำลังรักษาพื้นที่ตลอดแนวเช่นกัน

"ฮุน เซน" ประกาศไม่มีรบที่อรัญฯ

ส่วนด่านพรมแดนอรัญประเทศ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว กลุ่มพ่อค้า แม่ค้าและกรรมกรชาวเขมรกว่า 1 หมื่นคน แห่เดินทางเข้ามาเปิดร้านค้าขายและทำงานเป็นกรรมกรรับจ้างในตลาดโรงเกลือกันอย่างคึกคัก นอกจากนี้ยังมีการสั่งสินค้าจากฝั่งปอยเปตเข้ามาขายในตลาดโรงเกลือจำนวนมาก ทำให้ทั้งหน้าด่านพรมแดนอรัญประเทศและตลาดโรง เกลือ กลับมาคึกคักเหมือนเดิม สอบถาม พ.ต.ท.เบญจพล รอดสวาสดิ์ รอง ผกก.ตม.สระแก้ว เปิดเผยว่า หลังจากที่สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เดินทางมาเป็นประธานเปิดถนนสาย 59 ห่างจากชายแดนไทยประมาณ 13 กม. โดยสมเด็จฮุน เซน ได้กล่าวปราศรัยต่อหน้าประชาชนชาวเขมรกว่า 1 หมื่นคน ว่า ชายแดนปอยเปตกับชายแดนอรัญประเทศจะไม่มีการสู้รบ จะมีแต่การค้าขายและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อประชาชนทั้งสองประเทศ และจะจำกัดวงปะทะของทหารไทยและกัมพูชาให้อยู่เพียงพื้นที่ชายแดนปราสาทพระวิหารเท่านั้น ซึ่งจากคำประกาศดังกล่าวทำให้ประชาชนชาวเขมรที่อยู่บริเวณชายแดนและพ่อค้าแม่ค้าชาวเขมรในกรุงปอยเปต ต่างสบายใจและมั่นใจว่าบริเวณชายแดน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว และกรุงปอยเปต จะไม่มีการสู้รบกัน

สั่งถอนทหารกัมพูชากลับหมด

พ.ต.ท.เบญจพลกล่าวอีกว่า ในส่วนของนักท่องเที่ยวและนักพนันชาวไทยเริ่มทยอยเดินทางออกไปฝั่งเขมรเพิ่มขึ้น เนื่องจากนักท่องเที่ยวและนักพนันชาวไทย เริ่มมั่นใจในความปลอดภัยแล้ว ส่วน พ.ต.อ.สุบิน บุญเล็ก ผกก.สภ.อรัญประเทศ ได้ประสานความร่วมมือกับ ร.อ.ชาญ ว่องไวเมธี ผบ.ร้อย ทพ.1206 ฉก.กรม.ทพ.12 กกล. บูรพา นำกำลังร่วมกันออกตรวจและลาดตระเวน รักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณชายแดน และภายในตลาดโรงเกลือ เพื่อป้องกันมิจฉาชีพชาวเขมร ลักลอบเข้ามาทำลายบรรยากาศการค้าขายในตลาดโรงเกลือที่กำลังจะเข้าสู่ภาวะปกติอย่างเข้มงวด สำหรับกำลังทหารและหน่วยองครักษ์ ของฮุน เซน ได้เดินทางออกจากพื้นที่ชายแดนปอยเปตหมดแล้ว แม้แต่รถถัง 3 คัน ที่ส่งมารักษาความปลอดภัยให้กับผู้นำกัมพูชาบริเวณบ้านเขาลูกช้าง อ.โอวจโรว จ.บันเตียเมียนเจย ก็ได้ถอนกลับออกไปหมดแล้ว

ห่วงเด็กศรีสะเกษสอบโอเน็ต

นายสัมพันธ์ พันธุ์พฤกษ์ ผอ.สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากเหตุทหารไทยกับกัมพูชา ปะทะกันอย่างต่อเนื่อง ตามแนวชายแดนจังหวัดศรีสะเกษ ทั้งนี้ในวันที่ 19-20 ก.พ.นี้ จะเป็นวันสอบแบบทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน หรือโอเน็ต ระดับชั้น ม.6 ซึ่งเป็นการสอบที่มีความสำคัญต่อเด็กมาก โดยจะใช้เป็นส่วนประกอบหนึ่งของการสอบคัดเลือกเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย ทาง สทศ.จึงได้ประสานกับศูนย์สอบได้แก่ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ซึ่งดูแลสนามสอบใน จ.ศรีสะเกษ อย่างใกล้ชิด โดยให้คำนึงถึงความปลอดภัยของนักเรียนอย่างสูงสุด ซึ่งมีโรงเรียนที่เป็นสนามสอบโอเน็ต ม.6 ที่อยู่ใกล้แนวชายแดน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จำนวน 2 โรง ได้แก่ ร.ร.บึงมะลู มีนักเรียนสอบ 287 คน และ ร.ร.กันทรลักษ์วิทยา นักเรียนสอบ 794 คน ทั้งนี้ สนามสอบทั้ง 2 โรง ยืนยันกับ สทศ.ว่าสามารถจัดสอบได้ตามปกติ แต่ในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน ทางโรงเรียนได้เตรียมแผนสำรองไว้แล้ว โดยจะนำนักเรียนออกจากห้องสอบทันทีเพื่อความปลอดภัย ซึ่ง สทศ.จะพิจารณาหาทางช่วยเหลือต่อไป

มั่นใจทหารไทยไม่ทำให้เสียเปรียบ

อีกด้านเมื่อเวลา 09.00 น. วันเดียวกัน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ยูเอ็นเอสซีมีมติให้ไทยและกัมพูชาหยุดยิง แต่กลับมีเหตุการณ์ทหารเขมร ยิงปืนเกิดขึ้นอีกว่า เห็นใจพี่น้องทหารที่รักษาการณ์อยู่ตามแนวชายแดน  แต่มั่นใจว่าแม้จะมีการกระทบกระทั่งกัน เพราะอีกฝ่ายต้องการทำให้สถานการณ์ไม่จบ แต่ทหารไทยจะไม่ทำให้ประเทศเราเสียเปรียบ และขอชื่นชมผู้บังคับ บัญชาที่อยู่ที่ชายแดน ที่ได้กำชับเจ้าหน้าที่ของเราให้อยู่ในระเบียบวินัย ไม่โมโหเวลาที่ถูกยั่ว แล้วไล่ติดตามเข้าไปในเขตเขา จนกลายเป็นประเด็นปัญหาทางการเมืองระหว่างประเทศต่อไป เมื่อถามต่อว่า เรายังจะรักษาภาพลักษณ์บทนางเอกกับบทตัวโกงได้อีกนานแค่ไหน นายสุเทพกล่าวว่า อย่าไปว่าเขาเป็นตัวโกง เป็นเรื่องระหว่างประเทศที่ต้องระมัดระวัง แต่ละคนแต่ละประเทศก็ต้องทำเพื่อประเทศตัวเอง เชื่อว่าในที่สุดความมีเหตุ มีผล การที่ต้องอยู่ภายใต้สายตาของประชาคมโลก เหมือนที่ผู้ชุมนุมที่ต้องอยู่ภายใต้สายตาของประชาชนทั้งประเทศ ก็ต้องถูกกดดันด้วยประชาคมโลก

บานปลายเพราะเขมรเกลียดรัฐบาลนี้

เมื่อถามว่า การที่เหตุการณ์ไม่ยอมยุติ เพราะกัมพูชา จงเกลียดจงชังรัฐบาลนี้ด้วยหรือไม่นั้น นายสุเทพกล่าวว่า คงมีหลายเรื่อง บางเรื่องเป็นเพราะว่าความล่าช้า ในกระบวนการขั้นเจรจาต้องมีขั้นตอนการปฏิบัติ เมื่อถามว่า การที่นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ และนายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ เดินทางไปร่วมเปิดนิทรรศการการแสดงสินค้าไทย ที่กรุงพนมเปญ ในวันที่ 17 ก.พ. จะทำให้สัมพันธภาพทางการค้าช่วยลดแรงกระทบด้านชายแดนบ้างหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า คิดว่ามีส่วน ที่สำคัญใจลึกๆของสมเด็จฮุน เซน ก็หวังที่จะให้ความสัมพันธ์ของไทย-กัมพูชาดีขึ้น เพราะการค้าของระหว่างประชาชน 2 ประเทศมีความหมายต่อการดำรงชีวิตของประชาชน

เขมรเมินบริหารร่วมพระวิหาร

เมื่อถามต่อว่า แต่ภาพที่เกิดขึ้นเหมือนการเล่นละครลิง เพราะมีการยิงกันจริง คนเจ็บเจ็บจริง แต่ 2 ประเทศยังไม่มีความชัดเจน ยังมีการไปจัดงานแสดงสินค้า การทูตสมัยนี้ทำไมเป็นเช่นนี้ นายสุเทพกล่าวว่า ต้องพยายามเข้าใจเพื่อนบ้านเราด้วย จะให้คิดแบบเราทุกอย่างคงไม่ได้ ต้องเข้าใจว่าเขาคิดอะไร มีอะไรที่เราสามารถร่วมมือได้ ตอบสนองได้ ความต้องการที่จะเข้าไปบริหารพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร บนปราสาทพระวิหารนั้นก็เป็นส่วนหนึ่ง การบริหารจัดการพื้นที่ร่วมกันนั้น เราเคยเสนอไปแล้ว ฝ่ายกัมพูชายังไม่เอาด้วย เมื่อถามว่า กัมพูชาไม่คิดจะญาติดีกับไทยแล้วใช่หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ใช่ เป็นเฉพาะเรื่อง โกรธกันบ้าง เรื่องดีกันบางเรื่อง

วธ.แปลแผนบริหารปราสาทฯค้านเขมร

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รมว.วัฒนธรรม กล่าวว่า จากการประชุมคณะรัฐมนตรีที่ผ่านมา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้กรมศิลปากร ดำเนินการใน 2 เรื่องเกี่ยวกับกรณีปราสาทพระวิหาร ดังนี้ 1. ให้กรมศิลปากรนำแผนบริหารจัดการพื้นที่ปราสาทพระวิหารที่กัมพูชาส่งไปยังคณะกรรมการมรดกโลกมาแปลเป็นภาษาไทย เพื่อนำมาใช้เป็นข้อมูลในการโต้แย้งและคัดค้านการขึ้นทะเบียนปราสาทของกัมพูชาในส่วนที่เราไม่เห็นด้วย 2. ให้กรมศิลปากรเตรียมข้อมูลทั้งหมด เกี่ยวกับปราสาทพระวิหารและพื้นที่โดยรอบ รวมทั้งโบราณสถานต่างๆที่เกี่ยวเนื่องกับปราสาทพระวิหารทั้งหมด เพื่อใช้สำหรับกรณีที่คณะกรรมการมรดกโลก 21 ประเทศ จะเข้ามาตรวจสอบปราสาทพระวิหารและมีการสอบถามข้อมูล นอกจากนี้ กระทรวงฯจะทำหนังสือโต้แย้งเกี่ยวกับการที่ยูเนสโกจะส่งทูตพิเศษเข้ามาตรวจสอบความเสียหายของปราสาทพระวิหาร เพราะช่วงเวลานี้ยังไม่ควรมา เพราะสถานการณ์ยังตึงเครียด จะทำให้เกิดความรุนแรงมากยิ่งขึ้น

ขออาเซียนส่งผู้แทนสำรวจพื้นที่ปะทะ

ขณะเดียวกัน สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายฮอร์ นัม ฮง รมว.ต่างประเทศของกัมพูชา แถลงที่กรุงพนมเปญเมื่อวันพุธที่ 16 ก.พ. ว่าระหว่างการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ ของสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ใน 22 ก.พ.นี้ กัมพูชาจะร้องขอให้อาเซียนส่งคณะผู้สังเกตการณ์ มาบริเวณปราสาทพระวิหาร เพื่อให้มั่นใจว่าข้อตกลงหยุดยิงถาวรได้รับการปฏิบัติตาม และต้องรอดูว่าฝ่ายไทยจะยอมรับเรื่องนี้หรือไม่ นายฮอร์ นัม ฮง ยังกล่าวหาว่า ไทยเพิกเฉยต่อข้อเรียกร้องของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) ที่ขอให้คู่กรณีอดทนอดกลั้น ดังนั้น จึงจำเป็นที่อาเซียนจะต้องเข้ามาแทรกแซง เพื่อรับประกันว่าสันติภาพจะเกิดขึ้นที่ชายแดน ใกล้ปราสาทพระวิหารหลังเกิดการยิงปะทะกันในเดือนนี้

ให้สองฝ่ายเคารพข้อหยุดยิง

รอยเตอร์รายงานด้วยว่า ความเคลื่อนไหวของกัมพูชา ที่จะร้องขอให้อาเซียนส่งคณะผู้สังเกตการณ์มายังบริเวณปราสาทพระวิหาร ดูเหมือนจะทำให้ไทยขุ่นเคือง เพราะไทยเรียกร้องให้แก้ไขกรณีพิพาทแบบทวิภาคีมาตลอด และกล่าวหาว่ากัมพูชาพยายามทำให้ความขัดแย้ง กลายเป็นเรื่องระหว่างประเทศ ด้วยการยืนยันให้สหประชาชาติเข้ามาแทรกแซง ก่อนหน้านี้เมื่อ 14 ก.พ. นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศของไทย และนายฮอร์ นัม ฮง รมว.ต่างประเทศกัมพูชา ได้เข้าชี้แจงต่อยูเอ็นเอสซีในนครนิวยอร์ก ซึ่งยูเอ็นเอสซีแสดงความวิตกกังวลอย่างสูง ในการยิงปะทะระหว่างทหารไทยและกัมพูชาเมื่อ 4-7 ก.พ. ที่ผ่านมา พร้อมทั้งเรียกร้องให้มีการเจรจาในระดับทวิภาคีและระดับภูมิภาค โดยยูเอ็นเอสซีปฏิเสธข้อเรียกร้องของกัมพูชา ที่ขอให้ ยูเอ็นส่งกองกำลังรักษาสันติภาพมายังเขตพิพาท และกระตุ้นให้ทั้งสองฝ่ายเคารพข้อตกลงหยุดยิงด้วย

ติงกัมพูชาอย่าเรื่องมากรีบเจรจา

วันเดียวกัน นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการ รมว.ต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์อีกครั้ง ถึงกรณีที่นายฮอร์ นัม ฮง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศกัมพูชาระบุว่า จะขอให้อาเซียนส่งผู้แทนเข้ามาสำรวจพื้นที่ปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า เป็นแค่เพียงความเห็นส่วนตัวของนายนัม ฮง เพราะเมื่อครั้งที่นายมาร์ตี้ นาตาเลกาวา รมต.ต่างประเทศอินโดนีเซีย ในฐานะประธานอาเซียนเดินทางมาเยือนประเทศไทยเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ก็พูดชัดว่า อาเซียนจะช่วยสร้างบรรยากาศให้ทั้ง 2 ประเทศได้มานั่งเจรจากันเท่านั้น ไม่มีการพูดถึงเรื่องการส่งผู้แทนพิเศษเข้ามาสำรวจพื้นที่ เช่นเดียวกับข้อสรุปของยูเอ็นเอสซี ที่ระบุแค่เพียงว่า ขอให้อาเซียนสนับสนุนและสร้างบรรยากาศการเจรจาของทั้ง 2 ประเทศผ่านกลไกทวิภาคีที่มีอยู่ ไม่มีส่วนใดที่พูดถึงการให้อาเซียนสร้างกลไกเพิ่มเติม หรือตั้งผู้แทนพิเศษเข้ามาช่วยแก้ปัญหาแต่อย่างใด นายชวนนท์กล่าวด้วยว่า ในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย วันที่ 22 ก.พ.นี้ จะเป็นเพียงแค่การพบปะเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล สอบถามความห่วงใยจากมิตรประเทศเท่านั้น ซึ่งไทยก็จะยืนยันต่ออาเซียนว่า กลไกทวิภาคีของทั้ง 2 ประเทศยังเดินหน้าได้อยู่ จึงไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะต้องมีกลไกพิเศษ เพิ่มเติมในการเจรจา เพียงแต่ขอให้กัมพูชายอมกลับมาสู่โต๊ะเจรจาเท่านั้น

ทหารเขมรเหิมยิงบึมใส่ไทย

ช่วงเย็น พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ให้สัมภาษณ์ถึงการปะทะของทหารไทยกับทหารกัมพูชาที่ภูมะเขือตลอดคืนวันที่ 15 ก.พ.ว่า การปะทะเริ่มตั้งแต่ เวลา 20.00 น. โดยทหารกัมพูชาได้ขว้างระเบิดมือเข้ามาใส่ที่ตั้งของทหารไทย ต่อมาเวลา 21.00 น. ทหารกัมพูชา ได้พยายามเจาะแนวรั้วของทหารไทย เราจึงใช้ระเบิดขว้างตอบโต้ จนทหารกัมพูชาที่พยายามเจาะรั้ว เข้ามาในเขตเราถอยกลับไปและยุติการปฏิบัติการดังกล่าว ต่อมาเวลา 22.00 น. ทหารกัมพูชาได้ปฏิบัติการแทรกซึมเข้ามาในพื้นที่อีกครั้ง พร้อมขว้างระเบิดมือมายังที่ตั้งของทหารไทย ทางเราจึงขว้างระเบิดมือเพื่อเป็นการตอบโต้ตามความเหมาะสม และในเวลา 02.00 น. ทหารกัมพูชาได้ใช้ปืนกล ปืนครก (เครื่องยิงลูกระเบิดวิถีโค้ง) และยิงจรวดอาร์พีจีระดมยิงเข้ามาบริเวณที่ตั้งทหารไทยตรงภูมะเขือ จนเราต้องใช้มาตรการตอบโต้เพื่อป้องกันตัว และผลักดันให้ทหารกัมพูชาล่าถอยออกไป นอกจากนี้ ช่วงเวลา 03.50-04.00 น. ทหารกัมพูชาได้พยายามโจมตีที่ตั้งทหารไทยบริเวณ    ภูมะเขืออีกครั้งก่อนถอยกลับ จนการปะทะของทหารไทย-กัมพูชายุติเวลา 05.25 น. เช้ามืดของวันที่ 16 ก.พ.

ชี้ผู้นำทหาร 2 ฝ่ายคุยเข้าใจหยุดยิง

เมื่อถามว่า ทหารระดับสูงได้มีการพูดคุยหรือไม่ ภายหลังยูเอ็นเอสซีมีมติให้ทั้งสองฝ่ายหยุดยิง พ.อ. สรรเสริญกล่าวว่า  ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายมีความเข้าใจเป็นอย่างดี และมีการสั่งให้หยุดยิง ซึ่งการติดต่อสื่อสารทางฝ่ายไทยไม่มีปัญหา เพราะเราเชื่อฟังคำสั่งตามลำดับชั้น ไม่เคยฝ่าฝืนกฎ ไม่เคยยิงก่อน แต่ตนไม่ทราบว่าการติดต่อ สื่อสารทางฝ่ายกัมพูชาเป็นอย่างไร มีปัญหาอะไรหรือไม่ถึงมีการยิงกันอยู่ และไม่ทราบว่าผู้ใหญ่ฝ่ายกัมพูชารับทราบเรื่องนี้หรือไม่ว่าทหารระดับล่างกัมพูชายังมีการยิงตลอดเวลา

เผยทหารใช้อาวุธด้วยความปวดร้าว

ด้าน พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวถึงมติยูเอ็นเอสซี ที่ให้ไทยและกัมพูชายุติการยิงถาวรและให้มีการเจรจาแบบทวิภาคีว่า การเจรจาเป็นเรื่องของกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเจรจาตามกลไกทั้งการประชุมเจบีซี หรือการเจรจาในระดับทวิภาคี หรือเรื่องสนธิสัญญา กองทัพมีหน้าที่รักษาชีวิตทรัพย์สิน ไม่ให้มีอะไรมากระทบต่อประชาชน เราปฏิบัติตามกฎการใช้กำลัง ปฏิบัติตามพันธกิจที่ได้ให้ไว้กับประเทศต่างๆอย่างชัดเจน จะใช้อาวุธเมื่อเกิดความจำเป็นหรือเห็นว่ามีภัยต่อทหาร ประชาชน ชีวิต ทรัพย์สิน สำหรับเพื่อนบ้านเราจำเป็นต้องใช้อาวุธด้วยความปวดร้าว  แต่เมื่อต้องทำก็ต้องทำอย่างจริงๆ ถ้าเพื่อนบ้านที่ดีคงจะต้องหยุด แต่ถ้าดำเนินการต่อแล้วมีผลกระทบต่อชีวิตประชาชน ทรัพย์สิน และหน่วยทหาร ขอเรียนว่าบนความปวดร้าว เราจะตอบโต้อย่างสมควร ขณะนี้ยังไม่จำเป็นต้องอพยพคนออกมาก่อน เพราะทุกอย่างมีขั้นตอนการเตรียมการไว้หมด ไม่ว่าจะเป็นการปกป้องอธิปไตย การวางแผนพิทักษ์ประชาชน และการพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง รวมถึงการควบคุมความเสียหายเป็นพื้นที่ ทุกอย่างเป็นขั้นตอน เป็นระบบ อย่ากังวลใจ ขอให้มั่นใจ

ใครจะเจรจากับใครกองทัพไม่เกี่ยว

เมื่อถามถึงความเป็นไปได้ที่จะให้ รมว.กลาโหมไทยและกัมพูชาลงนาม เพื่อหยุดยิง พล.อ.ทรงกิตติกล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องของกองทัพ จะเชิญใครไปคุยกับใคร ตนไม่ทราบ แต่อย่าสร้างความเสียหายให้ประชาชน เรารักเพื่อนบ้าน แม้ต้องตอบโต้บนความปวดร้าวทางจิตใจ แต่เราต้องทำ ทางออกที่ดีคือ อยู่ร่วมกันและพัฒนาบ้านเมืองไปด้วยกันสู่ความเจริญรุ่งเรือง เมื่อถามว่า ท่าทีไทยดูไม่ค่อยตอบโต้กัมพูชา พล.อ.ทรงกิตติย้อนถามว่า ใครบอกว่าไม่ได้ตอบโต้ แต่จะน้อยไปหรือไม่ ตนไม่ทราบ แต่เราทำด้วยระบบ ทั้งสองฝ่ายทราบอยู่แล้วว่าควรจะทำอย่างไร แต่ทหารไทยฟังและมีวินัยในการยิง รวมถึงมีกฎการใช้กำลัง แต่ตนไม่ทราบของประเทศบ้านอื่น

ไม่เอาการเมืองมายุ่งกองทัพ

เมื่อถามถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯระบุว่า แม่ทัพภาคที่ 2 มีผลประโยชน์ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พล.อ.ทรงกิตติกล่าวว่า ตนไม่เกี่ยวข้องกับการนำประเด็นทางการเมืองมาสู่กองทัพ กองทัพทำงานตามหน้าที่ เมื่อถามว่า นิสัยที่ไม่ดีของกัมพูชา เราควรลดความสัมพันธ์ลงหรือไม่ พล.อ.ทรงกิตติกล่าวว่า พูดว่า ใครนิสัยไม่ดีไม่ได้ ต้องดูตัวเราและเพื่อนบ้านด้วย ส่วนจะลดความสัมพันธ์ หรือไม่  ไม่ใช่เรื่องของตน  เราไม่ลำบากใจต่อการปฏิบัติงาน เพราะหน้าที่ของเราถูกกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ  และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการจัดระเบียบกระทรวงกลาโหม ถึงไม่สั่งก็ต้องทำ ส่วนที่มีการมองว่าควรจะให้ปัญหามีการเจรจาแบบทวิภาคี ดีกว่าจะให้ชาติอื่นเข้ามาแทรกแซงนั้น เรื่องนี้ต้องถามรัฐบาลกับกระทรวงการต่างประเทศ

สตช.รุกตรวจค้นอาวุธม็อบเหลือง

ในส่วนการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ยังปิดถนนโดยไม่สน พ.ร.บ.ความมั่นคงนั้น พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงความคืบหน้าการดำเนินการของ ศอ.รส. เกี่ยวกับการชุมนุมว่า ศอ.รส.มีความพร้อม ไม่ให้มีการปิดล้อมหรือบุกรุกสถานที่ทำเนียบรัฐบาลและรัฐสภา ภาพรวมการชุมนุมอยู่ในความสงบเรียบร้อยพอสมควร มีข้อมูลบางกลุ่มนำอาวุธเข้ามาบริเวณสถานที่ชุมนุม และบริเวณใกล้เคียง เป็นพฤติกรรมที่ส่อเจตนาที่ไม่หวังดี อาจจะทำให้เกิดเหตุรุนแรง เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องขอเข้าตรวจค้นจุดที่ชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ เพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ รวมทั้ง ผบ.ตร.มีคำสั่งให้เพิ่มความเข้มจุดตรวจสกัดอาวุธ และวัตถุต้องสงสัยพื้นที่โดยรอบสถานที่ชุมนุม  เพื่อไม่ให้มีกลุ่มบุคคลเข้ามาสร้างสถานการณ์

ขอหมายเรียกอีก 40 แกนนำ

ส่วนการออกหมายเรียกแกนนำพันธมิตรฯนั้น พล.ต.ต.ประวุฒิกล่าวต่อว่า ขณะนี้ได้ออกหมายเรียก 10 คน ที่เข้าข่ายกระทำความผิดตามกฎหมาย ผบ.ตร.กำชับเจ้าหน้าที่ให้ใช้การบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่ ไม่ให้ เป็นเงื่อนไขของกลุ่มผู้ชุมนุม และดำเนินการตามขั้นตอน นำตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี โดยกลุ่มผู้ถูกหมายเรียก จะเป็นแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ขึ้นเวทีปราศรัย คาดว่า พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. หัวหน้าพนักงานสอบสวน จะออกหมายเรียกแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯเพิ่มเติมประมาณ 30-40 คน โดยตามขั้นตอนการออกหมายเรียก จะมีการออกหมายเรียก 2 ครั้ง หากไม่มาพบพนักงานสอบสวนตามกำหนด จะมีการขออำนาจศาลเพื่อขออนุมัติหมายจับกุมทันที

พธม.ไฟเขียว ตร.ค้นอาวุธในม็อบ

ที่หน้ากระทรวงศึกษาธิการ เวลา 10.00 น. พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรฯ และนายประพันธ์ คูณมี โฆษกการชุมนุม ร่วมแถลงข่าวอนุญาตให้ตำรวจเข้ามาตรวจค้นอาวุธภายในสถานที่ชุมนุมได้ โดยระบุเป็นเรื่องดี และขอสนับสนุน เพราะการชุมนุมนี้ ห้ามมีการนำอาวุธเข้ามาอยู่แล้ว ถ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพบขอให้ดำเนินการตามกฎหมายได้เลย โดยที่ พธม.จะไม่ ประกันตัวให้ อย่างไรก็ตาม ได้มอบหมายให้นายแซมดิน เลิศบุศย์ เป็นผู้ประสานการเดินตรวจค้นทั่วบริเวณการชุมนุม ขณะที่นายปานเทพกล่าวว่า กรณีที่ ศอ.รส. ประกาศรายชื่อ 10 แกนนำ พธม.ที่กระทำความผิด พ.ร.บ.ความ มั่นคงฯ ในการชุมนุมครั้งนี้ ขอยืนยันว่าขณะนี้เรายังไม่ ได้รับหมายเรียก หากได้รับมาเมื่อไหร่ ก็จะเดินทางไปมอบตัวและต่อสู้คดีตามกฎหมายต่อไป การที่ ศอ.รส. พยายามออกข่าวล่วงหน้าทั้งที่ยังไม่มีหมายเรียกที่ชัดเจน ถือเป็นการข่มขู่ประชาชนที่มาชุมนุม

บิ๊กแต้มนำค้นอาวุธเจอโดนโห่

ในเวลาเดียวกัน พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น. 1 พร้อมด้วยกำลังตำรวจกว่า 40 นาย ได้เข้ามาในพื้นที่ชุมนุม ตรวจค้นอาวุธอย่างละเอียดทั้งในเต็นท์และกระเป๋า ของผู้ชุมนุมทุกคน โดยกระจายกำลังตรวจค้นทุกพื้นที่ตั้งแต่เวทีกองทัพธรรม เชิงสะพานชมัยมรุเชฐ ถนนพิษณุโลก ไปจนถึงเวทีของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่สะพานมัฆวานฯ และเมื่อกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงเวทีใหญ่ ก็ถูกกลุ่มผู้ชุมนุมเขย่ามือตบและโห่ใส่ แต่ไม่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น ระหว่างนั้น พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ หนึ่งในแกนนำการชุมนุมครั้งนี้ ได้เดินเข้ามาโอบกอดและตบไหล่ ผบก.น.1 พร้อมกล่าวว่า การชุมนุมของพันธมิตรฯครั้งนี้ ทำเพื่อประเทศชาติในการปกป้องดินแดน ขอให้ตำรวจลุกขึ้นมาปกป้องดินแดนเหมือนพวกพันธมิตรฯ

พบมีด-ลั่นจะลุยค้นต่อเนื่อง

พล.ต.ต.วิชัยเปิดเผยว่า จากการตรวจค้นพื้นที่ชุมนุม พบอาวุธมีดปลายแหลม 1 ด้าม และเสื้อเกราะ เจ้าของมีดอ้างว่า เอามาใช้เป็นเครื่องมือจัดเตรียมพื้นที่ชุมนุม แต่มีดดังกล่าวมีลักษณะเป็นอาวุธชัดเจน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย จากนี้ไปจะมี การตรวจค้นอาวุธภายในพื้นที่ชุมนุมอยู่เรื่อยๆ จนกว่าจะยุติการชุมนุม ส่วนการออกหมายเรียกแกนนำพันธมิตรฯ ทั้ง 10 คน ให้มารายงานตัวในวันที่ 22 ก.พ.นี้ ถ้าแกนนำมามอบตัวเมื่อใด จะสอบสวนด้วยตัวเอง เพราะตนเป็นหนึ่งในคณะกรรมการสอบสวนด้วย